diff --git a/data/2025/01/15/Government News _1_3d8025d9-ce6b-4815-9e82-8d9a548b0e48.txt b/data/2025/01/15/Government News _1_3d8025d9-ce6b-4815-9e82-8d9a548b0e48.txt new file mode 100644 index 000000000..7da76d411 --- /dev/null +++ b/data/2025/01/15/Government News _1_3d8025d9-ce6b-4815-9e82-8d9a548b0e48.txt @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-PM to take field visit to 3 Southern border provinces on Jan 16 + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +PM to take field visit to 3 Southern border provinces on Jan 16 +PM to take field visit to 3 Southern border provinces on Jan 16 +January 15, 2025, Government Spokesperson Jirayu Houngsub disclosed that Prime Minister Paetongtarn Shinawatra is scheduled to pay a visit to 3 Southern border provinces (Narathiwat, Yala, and Pattani) on January 16, 2025. +The Prime Minister will travel to Narathiwat to meet local students and parents who will be attending the “Debt Resolution Fair: A Path to Justice” at Pikul Square, Narathiwat Rajanagarindra University in Mueang district. Later at the University meeting room, she will chair a meeting to follow up on the construction progress of a parallel bridge across Kolok River in Su-ngai Kolok district, and the Hat Yai - Su-ngai Kolok double-track railway project, which are parts of the development projects of the Southern border provinces. +The Prime Minister will later visit Thammawitthaya Foundation School, Mueang district, Yala province to meet with religious leaders and students, before traveling to Marine Police Pier, Rusamilae subdistrict, Mueang District, Pattani to meet with the province’s fishing industry operators. +At the Pattani Provincial Hall’s meeting room, the Prime Minister will follow up on the progress of dredging and maintenance project for Pattani coastal waterways and sand bypasses, pier maintenance, and a financial assistance scheme (soft loans) for business operators in the 3 Southern border provinces, before returning to Bangkok. +According to the Government Spokesperson, the Prime Minister’s field visit will mainly focus on the development of the 3 Southern border provinces, both in terms of transport and people’s quality of life, in a bid to enhance security and mobilize local economy. + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92400 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _1_366d8298-d43d-4312-98cf-db65017d72be.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _1_366d8298-d43d-4312-98cf-db65017d72be.txt" new file mode 100644 index 000000000..0e72581fe --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _1_366d8298-d43d-4312-98cf-db65017d72be.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล- นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พฤหัสบดี 16 ม.ค.นี้ เร่งพัฒนาพื้นที่ทุกมิติยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องชายแดนภาคใต้ ทั้ง สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา ต้องเท่าเทียมทุกจังหวัด + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พฤหัสบดี 16 ม.ค.นี้ เร่งพัฒนาพื้นที่ทุกมิติยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องชายแดนภาคใต้ ทั้ง สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา ต้องเท่าเทียมทุกจังหวัด +นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พฤหัสบดี 16 ม.ค.นี้ เร่งพัฒนาพื้นที่ทุกมิติยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องชายแดนภาคใต้ ทั้ง สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา ต้องเท่าเทียมทุกจังหวัดของประเทศ +วันนี้ (15 มกราคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี) ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครอง ที่เข้าร่วม “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความยุติธรรม” ณ ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พร้อมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่ - สุไหงโก-ลก ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ +จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อพบปะผู้นำศาสนาและนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ  จากนั้น จะเดินทางต่อไปยังท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมงจังหวัดปัตตานี พร้อมทั้ง จะติดตามความคืบหน้างานโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำปัตตานี และจุดจอดพักเรือจังหวัดปัตตานี และโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการ (Soft Loan)ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร +“สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการคมนาคม ขนส่ง รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อสร้างความมั่นคงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในพื้นที่” นายจิรายุ กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92373 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _2_c8cb36c8-2b66-46ed-8e76-d24c59fc0666.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _2_c8cb36c8-2b66-46ed-8e76-d24c59fc0666.txt" new file mode 100644 index 000000000..8b8bc4782 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _2_c8cb36c8-2b66-46ed-8e76-d24c59fc0666.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-เตือนภัย! ดื่มสุราแก้หนาว เสี่ยงไฮโปเทอร์เมียถึงตาย – รัฐบาลแนะวิธีคลายหนาวอย่างปลอดภัย + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +เตือนภัย! ดื่มสุราแก้หนาว เสี่ยงไฮโปเทอร์เมียถึงตาย – รัฐบาลแนะวิธีคลายหนาวอย่างปลอดภัย +เตือนภัย! ดื่มสุราแก้หนาว เสี่ยงไฮโปเทอร์เมียถึงตาย – รัฐบาลแนะวิธีคลายหนาวอย่างปลอดภัย +วันนี้ (15 มกราคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลทำให้มีอากาศเย็นถึงหนาวและหนาวจัดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอุณหภูมิจะลดลงต่ำสุดที่ 8 – 17 องศาเซลเซียสในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง +นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีพื้นที่ในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวเย็น  ประชาชนบางกลุ่มจึงนิยมดื่มสุราเพื่อคลายความหนาวเย็น โดยเชื่อว่าฤทธิ์ของสุราจะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ดื่มเป็นอย่างมากและอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต  เพราะการดื่มสุราในระยะแรกนั้นจะส่งผลให้หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะขยายตัวทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่ ร่างกายจะเริ่มระบายความร้อนมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง นำไปสู่ความเสี่ยงเกิดภาวะไฮโปเทอร์เมีย หรือภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกิน ซึ่งส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะในร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและสมอง ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ และในรายที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก จะออกฤทธิ์กดประสาททำให้เกิดอาการง่วง ซึม และอาจหลับท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ +นางสาวศศิกานต์  กล่าวต่อไปว่า การดื่มสุราเพื่อคลายหนาวไม่เพียงจะเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ดื่มเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ทำงานกลางแจ้งในสภาพที่อากาศหนาวเย็น นอกจากนี้การดื่มสุรายังจะส่งผลต่อให้สังคมในอีกหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน +“รัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชน ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง โดยแนะนำวิธีคลายหนาว โดยหันมาเตรียมร่างกายและดูแลสุขภาพตัวเองให้มีความพร้อมด้วยการ สวมเสื้อผ้าหนา ๆ สวมถุงมือถุงเท้าและสวมหมวกให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบทั้ง 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ที่ซึ่งจะอุดมด้วยวิตามินป้องกันโรคหวัด ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และดื่มน้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นแทนการดื่มสุรา ” นางสาวศศิกานต์  กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92377 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _3_7d95e5da-1b81-4681-8099-a39ab842c44c.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _3_7d95e5da-1b81-4681-8099-a39ab842c44c.txt" new file mode 100644 index 000000000..d3e43c117 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _3_7d95e5da-1b81-4681-8099-a39ab842c44c.txt" @@ -0,0 +1,17 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“คารม” รองโฆษกรัฐบาล เผยความเสียหายเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ช่วงวันที่ 6 – 12 มกราคม 2568 พบเคสตัวอย่างประชาชนถูกหลอกมากสุด 5 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 20 ล้านบาท แนะ ปชช.ยึดหลัก 4ไม่ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +“คารม” รองโฆษกรัฐบาล เผยความเสียหายเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ช่วงวันที่ 6 – 12 มกราคม 2568 พบเคสตัวอย่างประชาชนถูกหลอกมากสุด 5 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 20 ล้านบาท แนะ ปชช.ยึดหลัก 4ไม่ +“คารม” รองโฆษกรัฐบาล เผยความเสียหายเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ช่วงวันที่ 6 – 12 มกราคม 2568 พบเคสตัวอย่างประชาชนถูกหลอกมากสุด 5 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 20 ล้านบาท แนะ ปชช.ยึดหลัก 4 ไม่ “ ไม่กดลิงก์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ และไม่โอนเงิน” +วันนี้ ( 15 มกราคม 2568 ) เวลา 10.30 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 6 – 12 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้รายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส รวมมูลค่าความเสียหายทั้ง 5 คดี รวม 20,202,376 บาท ประกอบด้วย +คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 10,693,723 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ เป็นการกดถูกใจเพจเพื่อรับค่าตอบแทน จากนั้นจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line และทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพแนะนำ เมื่อต้องการถอนเงินได้รับเงินจริง ต่อมามิจฉาชีพได้มีการชักชวนให้ทำกิจกรรมโอนเงินเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป แต่เมื่อต้องการจะถอนเงิน มิจฉาชีพแจ้งว่ายังโอนไม่ครบตามกติกา จึงโอนเงินไปจนครบแล้วก็ยังไม่สามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก +คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3,247,521 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาเชิญชวนเทรดหุ้นผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อสอบถามรายละเอียด ต่อมามีการดึงเข้า Group Line และให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเทรดหุ้น ในช่วงแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพิ่มและเทรดหุ้นได้จำนวนมากขึ้นแต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่ายังเทรดหุ้นไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก +คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3,161,275 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาเชิญชวนเทรดหุ้นผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจจึงเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อสอบถามรายละเอียด มิจฉาชีพแนะนำและสอนขั้นตอนวิธีการเทรดหุ้นต่าง ๆ ให้แก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพื่อเริ่มเทรดหุ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่ายังเทรดไม่ถึงยอดที่สามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินเทรดหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก +คดีที่ 4 คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 1,700,000 บาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าผู้เสียหายทำการขายบัญชีม้า โดยให้บุคคลอื่นทำการเปิดบัญชีเป็นความผิดกฎหมายอาญา แจ้งขอตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชี หากไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิดตามกฎหมาย โดยให้โอนเงินทั้งหมดในบัญชีแล้วส่งหลักฐานการโอนให้ทาง Line หากตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิดจะโอนเงินคืนให้พร้อมเงินชดเชยค่าเสียหายต่าง ๆ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงให้ความร่วมมือและโอนเงินไป ภายหลังการโอนเงินเสร็จไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก +และคดีที่ 5  คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ มูลค่าความเสียหาย 1,399,857 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างติดต่อจาก Flash Express แจ้งว่าพัสดุของตนเสียหาย จะทำการชดเชยค่าเสียหายให้ จากนั้นให้เพิ่มเพื่อนทาง Line และส่ง Link ให้สแกน QR Code ทำตามขั้นตอนจนถึงการสแกนใบหน้า พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมด ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก +“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ในรูปแบบต่าง ๆ ขอย้ำเตือนให้ประชาชนตั้งสติ อย่าหลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพ แนะประชาชนยึดหลัก “4 ไม่” คือ ไม่กดลิงก์ ไม่เชื่อ ไม่รีบ และไม่โอนเงิน ขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจน พร้อมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์” นายคารม ระบุ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92380 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _4_912a3c8c-39f6-4ee4-ac98-b6a681a293da.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _4_912a3c8c-39f6-4ee4-ac98-b6a681a293da.txt" new file mode 100644 index 000000000..8cb92ecc6 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\204\340\270\223\340\270\260\340\271\202\340\270\206\340\270\251\340\270\201 _4_912a3c8c-39f6-4ee4-ac98-b6a681a293da.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-อนุกูล เผย “หอมแดง” ราคาขยับสูงขึ้น หลังรัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูง 72,000 ต่อไร่ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +อนุกูล เผย “หอมแดง” ราคาขยับสูงขึ้น หลังรัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูง 72,000 ต่อไร่ +อนุกูล เผย “หอมแดง” ราคาขยับสูงขึ้น หลังรัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูง 72,000 ต่อไร่ +วันนี้ (15 มกราคม 2568) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการสร้างรายได้และขยายโอกาสภาคการเกษตรผ่านมาตรการเชื่อมโยงประสานผู้ประกอบการและผู้รับซื้อภายในและภายนอกช่วงฤดูกาลหอมแดง ในเดือนธันวาคม 2567 โดยให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมและคุ้มต้นทุนผ่านการดำเนินการประสานผู้ประกอบการนอกพื้นที่ เปิดตลาดการค้าเชื่อมโยงผู้ประกอบการและซุเปอร์มาร์เก็ตให้เข้ามารับซื้อสินค้าหอมแดงถึงในไร่ปลูกหอมแดง พร้อมด้วยจัดโครงการภายใต้แคมเปญ “รักใครให้หอม” ผ่านช่องทางร้านธงฟ้า ตลอดจนการเชื่อมโยงผ่านช่องทางพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ +นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า ไม่เพียงแค่มาตรการในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการค้าภายในเพียงเท่านั้น กระทรวงพาณิชย์ยังได้เปิดตลาดการค้าประสานและเชื่อมโยงผู้รับซื้อจากต่างประเทศเข้ามารับซื้อ ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้หอมแดงมีราคาปรับตัวที่ดีขึ้น โดยหอมแดงสด เกรดกลาง มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11-12 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2567 ที่ราคา 8-9 บาท/กก. และเกรดสวย ราคา 12-14 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจาก 10 บาท/กก. และคาดว่าแนวโน้มราคาจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องไปจนจบฤดูกาล เนื่องจากหอมแดงปีนี้มีคุณภาพดีมาก สำหรับภาพรวมข้อมูลตัวเลขผลผลิตหอมแดงทั้งประเทศคาดว่า จะอยู่ที่ปริมาณ 152,221 ตัน และในเฉพาะพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ผลผลิตคิดเป็น 53% ของผลผลิตทั้งประเทศ หรือประมาณ 80,771 ตัน โดยผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 80% ยังคงเหลืออีกประมาณ 20% ในพื้นที่อำเภอราษีไศล +นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า จากมาตรการในการเชื่อมโยงประสานผู้ประกอบการและผู้รับซื้อทั้งภายในและภายนอกตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล จนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล ทำให้ราคาหอมแดงมีการปรับตัวที่ดีขึ้น ซึ่งเกษตรกรมีความพึงพอใจในราคา โดยราคาที่เกษตรกรสามารถขายได้อยู่ที่ประมาณ 11-12 บาท/กก. ทำรายได้ 66,000-72,000 บาทต่อไร่  และเนื่องด้วยผลผลิตหอมแดงในปีนี้มีคุณภาพดีมาก ตัวแทนภาคเอกชน พร้อมที่จะเข้ารับซื้อหอมแดงจากเกษตรอย่างต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 1,500 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า  20 ล้านบาท และพร้อมจะซื้อตามคุณภาพโดยหอมแห้งทำความสะอาดแล้วรับซื้อกิโลกรัมมากกว่า 30 บาท/กก. ซึ่งจะดำเนินการซื้อไปจนกว่าจะจบฤดูกาล + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92388 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _1_14aa333c-6829-4eb4-95e6-c8c65a32c1bb.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _1_14aa333c-6829-4eb4-95e6-c8c65a32c1bb.txt" new file mode 100644 index 000000000..388fcf127 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _1_14aa333c-6829-4eb4-95e6-c8c65a32c1bb.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายกฯ เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับเปลี่ยนรูปแบบหลอกลวงแนบเนียนขึ้น เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างชื่อไปขอรับบริจาค ย้ำไม่รับเงินบริจาคและไม่บริจาคเงินให้ใคร + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +นายกฯ เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับเปลี่ยนรูปแบบหลอกลวงแนบเนียนขึ้น เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างชื่อไปขอรับบริจาค ย้ำไม่รับเงินบริจาคและไม่บริจาคเงินให้ใคร +นายกฯ เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับเปลี่ยนรูปแบบหลอกลวงแนบเนียนขึ้น เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างชื่อไปขอรับบริจาค ย้ำไม่รับเงินบริจาคและไม่บริจาคเงินให้ใคร +วันนี้ (15 มกราคม 2568) เวลา 10.35 น.  ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ชั้น 2 ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเสียงของผู้นำต่างประเทศส่งข้อความเสียงมาว่าเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้รับเงินบริจาคว่า รู้สึกตกใจมากเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เพราะเนียนมาก  โดยปกติแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมาแอบอ้างมาในรูปแบบเบอร์โทรศัพท์บ้าน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือแปลกๆ แต่ในรูปแบบครั้งนี้เพิ่งเคยเจอ เป็นการนำเสียงของผู้ประเทศปลอมแปลงเสียงผ่านระบบ AI แอบอ้างเป็นเสียงของผู้นำประเทศ ซึ่งเสียงดังกล่าวเป็นเสียงที่เคยได้ยิน โดยครั้งแรกเป็นการส่งวิดีโอคลิปมาก่อน อ้างถึงว่า ต้องการจะร่วมทำงานร่วมกัน ซึ่งตนเองได้ตอบกลับไปเป็นข้อความกลับไป และช่วงหนึ่งมีการโทรเข้าหาตนเอง  แต่ตอนนั้นเป็นเวลาดึก ตนเองได้นอนหลับพักผ่อนแล้ว เลยไม่ได้รับสายที่โทรเข้ามา +นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ไม่เพียงในเรื่องของการแอบอ้างเสียงผู้นำเท่านั้น ยังได้มีการแปลงเสียงโดยอ้างถึงการให้บริจาค โดยบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ยังไม่ได้บริจาค และส่งข้อความมาในรูปแบบของบัญชีให้ทำการโอน ซึ่งเป็นบัญชีอีกประเทศหนึ่งไม่ตรงกับเสียงของผู้นำ ตนเองจึงแน่ใจว่าเป็นกระบวนการของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ ได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดูแลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ใช่แอปพลิเคชัน LINE แต่เป็นแอปฯ ต่างประเทศ จึงไม่แน่ใจว่าสามารถตรวจสอบได้มากน้อยแค่ไหน ขอเตือนภัยถึงประชาชน ขอย้ำว่า ตนเองไม่ได้มีการบริจาคหรือรับเงินจากใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อถูกมิจฉาชีพหลอกนำชื่อตนเองไปแอบอ้าง + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92390 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _2_9f7e3e4f-206c-4862-bfe1-a0220fa76920.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _2_9f7e3e4f-206c-4862-bfe1-a0220fa76920.txt" new file mode 100644 index 000000000..74c419f7d --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _2_9f7e3e4f-206c-4862-bfe1-a0220fa76920.txt" @@ -0,0 +1,27 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล- นายกฯ ให้นโยบายทุกส่วนงานของรัฐ ใช้จ่ายงบประมาณปี 69 ต้องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21 และทุกบาททุกสตางค์ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทยและประเทศ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +นายกฯ ให้นโยบายทุกส่วนงานของรัฐ ใช้จ่ายงบประมาณปี 69 ต้องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21 และทุกบาททุกสตางค์ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทยและประเทศ +นายกฯ ให้นโยบายทุกส่วนงานของรัฐ ใช้จ่ายงบประมาณปี 69 ต้องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21 และทุกบาททุกสตางค์ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทยและประเทศ ย้ำต้องพัฒนายกระดับมาตรฐานการทำงานของภาครัฐให้ตอบสนองกับโลกสมัยใหม่ +วันนี้ (15 มกราคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569  เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบนโยบายหลักเกณฑ์และแนวทางในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569  ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อนำไปปฏิบัติ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยมีหัวหน้าหน่วยงานราชการจากทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมด้วย โดยมีการถ่ายทอดผ่านบนระบบ Video Conference ไปยังศาลากลางทุกจังหวัด และผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) Facebook Live เพจ Live NBT2HD และเพจสำนักงบประมาณ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้ร่วมรับชมและฟังด้วย +นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงจุดประสงค์สำคัญในการจัดทำงบประมาณปี 2569 โดยต้องทำให้ทุกคนมองเห็นภาพเดียวกัน ว่าจะร่วมกันเปลี่ยนแปลงความท้าทายของการพัฒนาประเทศให้เป็นความหวัง และเป็นโอกาสให้ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ตรงจุดได้    โดยวางแผนการใช้งบฯปี 2569 ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ผ่านการยกระดับมาตรฐานการทำงานของภาครัฐให้ตอบสนองกับโลกในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการด้วย “การเติบโตทางประสิทธิผล”  หรือ “Efficiency GROWTH” ต้องใช้งบฯให้แม่นยำ ทำงานให้ตรงเป้าหมายดังนี้ +(1) ไม่ลดสัดส่วนงบลงทุน และอุดหนุนเพื่อสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง (2) ไม่เพิ่มงบดำเนินงาน เน้นเพิ่มประสิทธิผล แต่ไม่เพิ่มงบประมาณ (3) ไม่เพิ่มอัตรากำลังเน้นพัฒนากำลังคนของเราที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ  และดูแลด้านสวัสดิการให้ทั่วถึง และเท่าเทียม +นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความท้าทายที่ประเทศไทยเผชิญทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ด้านภูมิรัฐศาสตร์  รวมถึงเศรษฐกิจของไทยที่เติบโตต่ำกว่าศักยภาพมานาน หลายปี ส่งผลให้รายได้ของคนไทยโตไม่ทันรายจ่าย  นำไปสู่ปัญหาหนี้ที่รุนแรง และเรื้อรัง  เช่นเดียวกับปัญหาของคนทำมาค้าขาย ที่ต้องรับมือกับทั้งปัญหาด้านสภาพคล่องและการจ้างงาน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านคุณภาพชีวิต  สังคม  และสิ่งแวดล้อม  ที่ยังรอการแก้ไขอีกหลายเรื่อง +อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี กล่าวเชื่อมั่นในประเทศไทยและคนไทยที่มีศักยภาพ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะสามารถสร้าง “การเติบโตด้านประสิทธิผล” หรือ “Efficiency GROWTH”  เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาเร่งด่วนให้คนไทย  ทำให้พี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี +นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่านายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณฯ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ตามของนโยบายรัฐบาล ทั้งการปัญหาแก้หนี้ครัวเรือนทั้งระบบ และ Digital Wallet  ด้านการท่องเที่ยว  ด้านอุตสาหกรรม   ด้านการต่างประเทศ ด้านเกษตร ด้านพลังงาน  โครงสร้างพื้นฐาน  รวมไปถึงนโยบายด้านสังคม  โดยรัฐบาลจะสร้างโอกาสที่เสมอภาคทั้งในทางเศรษฐกิจและสังคม ในส่วนของงบประมาณจะต้องสะท้อนความตั้งใจที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ด้านการศึกษารัฐบาลจะนำโครงการ ODOS กลับมา  ทั้งในรูปแบบโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน  Summer Camp  รวมทั้งโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ  พร้อมกับพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น  ทั้งในระบบและนอกระบบ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต  เน้นทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้จริง  เพื่อสร้างรายได้ (Learn to Earn)  และได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องไม่มีเด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนจบการศึกษาภาคบังคับ  ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเตรียมคนในประเทศให้พร้อมรองรับการพัฒนาประเทศและโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาจากบริษัทหรือผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนและประกอบกิจการในประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องเร่งสร้างโอกาสให้มากขึ้นโดยเร็ว +สำหรับด้าน Soft Power  รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพ Upskill และ Reskill คนไทย  เพื่อให้คนไทยเป็นพลเมืองที่คุณภาพของโลกในศตวรรษที่ 21  ด้วยนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (OFOS) ด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย  รัฐบาลต้องการเห็นการใช้ทรัพยากรภาครัฐอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะในเรื่องที่ดิน ที่จะสนับสนุนคนไทยจะต้องเข้าถึงสิทธิที่ดินเพิ่มขึ้น แก้ปัญหาที่ดินทับช้อน รวมถึงการดำเนิน โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” (Public Housing)  ที่จะทำให้การมีบ้านของตัวเอง +สำหรับปัญหาด้านยาเสพติด & อาชญากรรม/อาชญากรรมออนไลน์ รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทย  ด้วยวิธีการที่เด็ดขาด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ   สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม  รัฐบาลต้องการให้พี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้านสามารถเข้าถึงน้ำสะอาด  มีน้ำเพียงพอที่จะทำการเกษตร  รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งลดลง ซึ่งรัฐบาลได้มีการวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว +ส่วนด้านความมั่นคง/กองทัพ ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคงทางด้านทหาร  กองทัพจะต้องมีประสิทธิภาพ  และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิผล  โดยเน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการดูแลความมั่นคงของประเทศ  ปรับขนาดองค์กรให้มีความคล่องตัว  และสอดคล้องกับภารกิจ  พร้อมทั้งเร่งเปลี่ยนผ่านรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่แบบสมัครใจ +ด้านการบริหารรัฐกิจ (1) กฎระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่ถูกทบทวนมายาวนาน 20-30 ปี และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้แต่ละกระทรวงได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบและแก้กฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  พร้อมทั้งยกเลิกกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น  เพื่อเอื้อต่อการประกอบธุรกิจในประเทศ  (Ease of Doing Business)  (2) E-Government ประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ นิติธรรม เพื่อรับมือกับข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ  และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน  จะต้องมุ่งสู่การเป็น Digital Government  เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานด้วยนโยบาย “Go Cloud First”  รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมคิดเห็นและมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น +นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไป ว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาลทั้งนโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลาง และระยะยาว  ถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ครอบคลุมทุกประเด็น ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 3,780,600 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2568 ได้ไม่มากนัก แต่มีรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายจำนวนมาก +ดังนั้น ในการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นเท่าที่จำเป็น จะต้องไม่เป็นการเพิ่มรายจ่ายประจำ ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณขอให้ใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาครัฐ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณ  และการใช้จ่ายงบประมาณ  ให้เป็นไปอย่างประหยัด และคุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์กับประชาชนอย่างแท้จริง  รวมทั้งขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี  วันที่ 24 ธันวาคม 2567  เรื่องแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569 - 2672) อย่างเคร่งครัด  ดังนี้ +(1) ให้กระทรวงการคลัง  ดำเนินการจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  โดยให้เทียบเคียงการดำเนินการ กับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับประเทศไทย เพื่อให้ภาครัฐมีงบประมาณที่เพียงพอ สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่าง ๆ +(2) ให้หน่วยรับงบประมาณ  ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ  และประสิทธิผลมากที่สุด  เพื่อให้มีความคุ้มค่า ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน  ทั้งนี้ ในการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณ ให้เสนอขอรับงบประมาณเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้ความสำคัญกับโครงการลงทุนของภาครัฐ ด้วย +(3) ให้หน่วยรับงบประมาณ  ที่มีเงินนอกงบประมาณ  เงินรายได้ หรือเงินสะสม  นำเงินดังกล่าวมาใช้ดำเนินโครงการ ภารกิจในความรับผิดชอบเป็นลำดับแรก  รวมทั้งพิจารณาแหล่งเงินอื่น  เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการตามความเหมาะสมด้วย  เช่น เงินกู้ PPP  เพื่อลดภาระงบประมาณในภาพรวมของประเทศ +(4) ให้กระทรวง และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง  เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ  รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจ  พิจารณาลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชน และนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย +“สิ่งสำคัญที่พูดคุยกันในวันนี้  ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการจัดทำงบประมาณของปี พ.ศ. 2569  แต่ยังรวมถึงเป้าหมาย และวิธีการ ที่ราชการจะช่วยกันเปลี่ยนงบประมาณของประเทศ  ให้เป็นความหวัง และโอกาสของประเทศชาติ และประชาชน  ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า  ข้าราชการเกือบ 2 ล้านคน  จะดูแลคนไทยทั้ง 66 ล้านคนด้วยความใส่ใจ  โดยการใช้จ่ายเงินงบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า  ซึ่งหวังว่าการจัดทำงบประมาณ และบูรณาการ งบประมาณในมิติพื้นที่จะทำให้แผนงานโครงการของงบประมาณปี 2569  เป็นงบประมาณที่ช่วยเติมความหวัง  สร้างโอกาส  และวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว” นายกรัฐมนตรีให้นโยบาย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92392 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _3_f3e1a468-1d11-4f98-9da6-52553c95a6e9.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _3_f3e1a468-1d11-4f98-9da6-52553c95a6e9.txt" new file mode 100644 index 000000000..1540f0cab --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _3_f3e1a468-1d11-4f98-9da6-52553c95a6e9.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายกฯ ประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอัปเดตข้อมูล พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การแก้ไขฝุ่น PM 2.5 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +นายกฯ ประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอัปเดตข้อมูล พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การแก้ไขฝุ่น PM 2.5 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน +นายกฯ ประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอัปเดตข้อมูล พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การแก้ไขฝุ่น PM 2.5 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน +นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (15 มกราคม 2568) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม +นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้พบว่าค่าฝุ่น PM 2.5 สูงมาก หากดูในแอปพลิเคชันเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 จะแสดงผลระดับสีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นสีส้ม (สถานการณ์อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และสีแดง (สถานการณ์อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ)  โดยต้องการฟังแนวทางการดำเนินการของแต่ละหน่วยงานว่าได้มีการดำเนินการอย่างไรไปแล้วบ้างในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ภายหลังจากที่ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่สำคัญมากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งเด็กเยาวชน คนสูงอายุ และประชาชนทั่วไป ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่าค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครดัชนีสูงถึง 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และคิดว่าในบางวันบางช่วงมีตัวเลขที่สูงกว่านี้  ทั้งนี้ จากผลการวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ผ่านมา ยังต้องทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะผลที่ออกมายังไม่เป็นน่าพอใจเท่าที่ควร ขอให้แต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องนำเสนอสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วและสิ่งที่จะทำต่อไปว่ามีอะไรบ้างเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ +จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังแนวทางการดำเนินการของกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ผ่านมาและสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งดำเนินการออกประกาศควบคุมสินค้าที่มาจากการเผา กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการส่งเสริมการตัดอ้อยสด นำใบอ้อยสดไปใช้ประโยชน์ โดยนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า กรุงเทพมหานครดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ผ่าน 9 มาตรการ เช่น WFH เพื่อจะทำให้ปริมาณการจราจรในถนนจะลดลง ทำให้การจราจรติดขัดน้อยลง การปล่อยฝุ่นสะสมจะน้อยลงด้วย +“ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยอัปเดตข้อมูลผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเร่งช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาของแต่ละกระทรวง เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและเตรียมความพร้อมรับมือฝุ่น PM 2.5” นายกรัฐมนตรีย้ำ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92404 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _4_d684632a-9b37-4fe9-a424-ec8cedc60ebc.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _4_d684632a-9b37-4fe9-a424-ec8cedc60ebc.txt" new file mode 100644 index 000000000..3b7d5acf8 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\231\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\243\340\270\261\340\270\220\340\270\241\340\270\231\340\270\225\340\270\243\340\270\265 _4_d684632a-9b37-4fe9-a424-ec8cedc60ebc.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​นายกฯ เปิดทำเนียบฯ ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วโลกชื่นชม ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิใจ บังคับใช้กม. 23 ม.ค. นี้ ยกระดับประเทศสู่การเป็น LGBTQ+ Global Destina + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +​นายกฯ เปิดทำเนียบฯ ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วโลกชื่นชม ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิใจ บังคับใช้กม. 23 ม.ค. นี้ ยกระดับประเทศสู่การเป็น LGBTQ+ Global Destina +​นายกฯ เปิดทำเนียบฯ ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ ‘สมรสเท่าเทียม’ ทั่วโลกชื่นชม ธงสีรุ้งปักลงบนประเทศไทยอย่างภาคภูมิใจ บังคับใช้กม. 23 ม.ค. นี้ ยกระดับประเทศสู่การเป็น LGBTQ+ Global Destination กระตุ้นการท่องเที่ยว +วันนี้ (15 มกราคม 2568 ) 16.00 น.  ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วมบันทึกภาพเนื่องในโอกาสประเทศไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยมี +นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งเอกอัครราชทูตและผู้แทนต่างประเทศ อาทิ นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นาย Jean-Claude Poimboeuf เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นาย Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ นางสาว Michaela Friberg-storey ผู้ประสานงานสหประชาชาติ พร้อมด้วยผู้แทนคู่รัก LGBTQ+ ร่วมถ่ายภาพฉลองความสำเร็จของกฎหมายดังกล่าว +นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า การถ่ายภาพฉลองความสำเร็จกฎหมายสมรสเท่าเทียมวันนี้ ถือเป็นการประกาศประวัติศาสตร์ความรักที่เท่าเทียมและยังเป็นการบันทึกความก้าวหน้าของประเทศไทยที่มีกฎหมายการสมรสเท่าเทียมแห่งแรกของอาเซียน และประเทศที่ 3 ของเอเชีย ส่งผลให้คนทั่วโลกรับทราบว่า รัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศในสังคม และจะขับเคลื่อนการพัฒนาภาพลักษณ์ทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็น LGBTQ+ Global Destination ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว +นายจิรายุกล่าวต่อว่า สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้บุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จาก กม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า “ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง” แก้ไขเป็น “ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น” หรือ “เพศ” ที่ใช้คำว่า “ชาย-หญิง” แก้ไขเป็น “บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย” และสถานะหลังจดทะเบียนสมรส จาก “สามีภริยา/คู่สมรส” แก้เป็น “คู่สมรส/คู่สมรส” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง +“ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิต่าง ๆ ทั้งสิทธิการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย เป็นต้น ปัจจุบันนายทะเบียน 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร พร้อมอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม” จิรายุ กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92407 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _1_3d8ef365-ac43-45ac-99cc-55cff7696842.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _1_3d8ef365-ac43-45ac-99cc-55cff7696842.txt" new file mode 100644 index 000000000..a5dc5d2e0 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _1_3d8ef365-ac43-45ac-99cc-55cff7696842.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท. อิตาลีฯ ย้ำความสัมพันธ์ไทย-อิตาลีที่ใกล้ชิดและยาวนาน พร้อมเดินหน้าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท. อิตาลีฯ ย้ำความสัมพันธ์ไทย-อิตาลีที่ใกล้ชิดและยาวนาน พร้อมเดินหน้าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน +รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท. อิตาลีฯ ย้ำความสัมพันธ์ไทย-อิตาลีที่ใกล้ชิดและยาวนาน พร้อมเดินหน้าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน +วันนี้ (วันพุธที่ 15 มกราคม 2568) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชั้น 2 กระทรวงคมนาคม นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือได้ดังนี้ +รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ พร้อมทั้งชื่นชมในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนานกว่า 156 ปีระหว่างไทยกับอิตาลี ทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีและการเป็นพันธมิตรที่สำคัญ และทั้งสองประเทศยังมีความร่วมมือที่ดีในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและในระดับภูมิภาค +เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ กล่าวสวัสดีปีใหม่และขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมชื่นชมบทบาทและความสามารถของรองนายกรัฐมนตรีฯ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังชื่นชมศักยภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งและโดดเด่น ซึ่งอิตาลีเชื่อมั่นว่าจะทำให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคในอนาคต พร้อมแสดงความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือกับไทยในด้านต่าง ๆ +โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือที่สำคัญหลายประการ โดยเอกอัครราชทูตอิตาลีได้แสดงความสนใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของไทย โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ (LandBridge) ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโลก และมีภาคเอกชนจากอิตาลีจำนวนมากที่แสดงความสนใจและต้องการเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีฯ ยินดีที่อิตาลีให้ความสนใจ และเน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่พร้อมเปิดรับการลงทุนจากอิตาลี รวมถึงโครงการอื่น ๆ ที่อิตาลีให้ความสนใจ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นต้น + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92402 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _2_faf80aa9-c749-4802-aef9-1b69946bdbe0.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _2_faf80aa9-c749-4802-aef9-1b69946bdbe0.txt" new file mode 100644 index 000000000..fba51c478 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\202\340\271\210\340\270\262\340\270\247\340\270\243\340\270\255\340\270\207 \340\270\231\340\270\243\340\270\241 \340\270\243\340\270\241\340\270\225\340\270\231\340\270\243 _2_faf80aa9-c749-4802-aef9-1b69946bdbe0.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท.แคนาดาฯ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยว และการคมนาคม + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท.แคนาดาฯ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยว และการคมนาคม +รองนายกฯ นายสุริยะ หารือ ออท.แคนาดาฯ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยว และการคมนาคม +วันนี้ (15 มกราคม 2568) เวลา 16.00 น. ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชั้น 2 กระทรวงคมนาคม นางสาวปิง คิตนีกอน (Her Excellency Ms. Ping Kitnikone) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ +รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับพร้อมแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตฯ ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-แคนาดาที่แน่นแฟ้นมาโดยตลอด โดยเชื่อมั่นว่าไทยและแคนาดามีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือในมิติต่าง ๆ เพิ่มเติม ครอบคลุมด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนการศึกษา +เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยกล่าวขอบคุณต่อคำแสดงความยินดี พร้อมแสดงความมุ่งมั่นในการเพิ่มพูนความร่วมมือกับไทยทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะการขยายโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศผ่านความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา (ASEAN-Canada Free Trade Agreement) ซึ่งไทยเป็นคู่ค้าสำคัญในฐานะคู่ค้าอันดับ 2 ของแคนาดาในอาเซียน +ในตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการยกระดับความร่วมมือด้านการคมนาคมและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น การผลักดันการดำเนินงานการบินอากาศยานทางทะเล (Seaplane Operations) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลในไทย การส่งเสริมการเดินทางโดยระบบราง (Railway) ในไทย และการสนับสนุนความร่วมมือรัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและแคนาดา + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92408 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _1_cc0414c2-25e3-4b1e-a10c-930d40f33fb3.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _1_cc0414c2-25e3-4b1e-a10c-930d40f33fb3.txt" new file mode 100644 index 000000000..474988daa --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _1_cc0414c2-25e3-4b1e-a10c-930d40f33fb3.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +กระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป +กระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป พร้อมทั้งพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาส พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช +ในวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 07.30 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง พร้อมด้วย นางสุนีย์ สอดส่อง ภริยา และนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป ถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาส พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธี +ต่อจากนั้น ในเวลา 09.00 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ภริยา และรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสดังกล่าว โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธี + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92384 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _2_8bebc8cf-5f75-454a-b577-05a685a17429.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _2_8bebc8cf-5f75-454a-b577-05a685a17429.txt" new file mode 100644 index 000000000..5bf9e0dda --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _2_8bebc8cf-5f75-454a-b577-05a685a17429.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ต้องขังยากไร้ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องขังป่วยภายในเรือนจำกลางบางขวาง + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ต้องขังยากไร้ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องขังป่วยภายในเรือนจำกลางบางขวาง +รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ต้องขังยากไร้ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องขังป่วยภายในเรือนจำกลางบางขวาง +ในวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ต้องขังยากไร้ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องขังป่วยภายในเรือนจำกลางบางขวาง โดยมี พันตำรวจโท เชน  กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง และผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยทัณฑสถาน ในเขต 10 ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ร่วมให้การต้อนรับ ณ เรือนจำกลางบางขวาง +โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ พร้อมทั้งให้กำลังใจและให้โอวาทแก่ผู้ต้องขังเกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิต 6 อ. ประกอบด้วย 1) อาหารการกิน ทานอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่และถูกสุขลักษณะ 2) อาศัย เรือนจำเป็นเสมือนที่อยู่อาศัย ให้ช่วยกันดูแลอย่างปลอดภัยและอบอุ่น 3) อนามัย ซึ่งหมายถึงสุขอนามัยที่ดีภายในเรือนจำ 4) โอกาส การมองหาโอกาสที่จะพัฒนาตนเอง จากการฝึกวิชาชีพภายในเรือนจำ 5) อาชีพ ที่จะสามารถต่อยอดความรู้ที่ได้จากการฝึกวิชาชีพภายในเรือนจำ เพื่อใช้ไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ และ 6) อัตลักษณ์วัฒนธรรม ให้ผู้ต้องขังแต่ละศาสนายึดหลักอัตลักษณ์ วัฒนธรรมของตนเองไว้ +ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมเป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังของเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาพฤตินิสัย ส่งเสริมการสร้างกำลังใจให้กับผู้ต้องขังที่ด้อยโอกาส ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข ทั้งในขณะต้องโทษและภายหลังพ้นโทษ พร้อมที่จะกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพและไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92385 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _3_d4ed4bb5-c426-4753-8ba3-896c0c520413.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _3_d4ed4bb5-c426-4753-8ba3-896c0c520413.txt" new file mode 100644 index 000000000..f52a56fd8 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _3_d4ed4bb5-c426-4753-8ba3-896c0c520413.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ นายซูซูกิ เคอิสุเกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ นายซูซูกิ เคอิสุเกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ นายซูซูกิ เคอิสุเกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย +ในวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 14.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และพันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ให้การต้อนรับนายซูซูกิ เคอิสุเกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ณ ห้องรับรองประจำกระทรวงยุติธรรม 3-01 ชั้น 3 +ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านกฎหมายและงานยุติธรรม ซึ่งไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือผ่านกรอบความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยฝ่ายญี่ปุ่นเห็นว่า ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในกรอบความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงชื่นชมการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดการประชุม ASEAN Plus Japan Law Ministers’ Meeting (ALAWMM + Japan) ซึ่งรัฐมนตรีฯ ยินดีให้การสนับสนุนในประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ ได้แจ้งให้ฝ่ายญี่ปุ่นรับทราบเกี่ยวกับประเด็นที่ฝ่ายไทยให้ความสำคัญ อาทิ การยกระดับเรื่องหลักนิติธรรม (Rule of Law) และการพัฒนากฎหมาย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมอยู่ระหว่างการพัฒนาร่างพระราชบัญญัติชะลอฟ้อง พ.ศ. .... โดยเห็นว่าการชะลอฟ้องถือเป็นกลไกที่สำคัญในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศญี่ปุ่น จึงประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวจากญี่ปุ่น ในโอกาสนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นยังได้แสดงความขอบคุณฝ่ายไทยสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีนางสาวคาวาชิตะ โทโมโกะ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมไทยและญี่ปุ่นมีความยินดีที่ดำเนินความร่วมมือด้านกฎหมายและงานยุติธรรมในมิติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92386 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _4_13f76ac7-1fb1-4d6a-90f3-1baf0a56d80b.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _4_13f76ac7-1fb1-4d6a-90f3-1baf0a56d80b.txt" new file mode 100644 index 000000000..9413c5ffa --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _4_13f76ac7-1fb1-4d6a-90f3-1baf0a56d80b.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รมว.ยุติธรรม มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน นำนักโทษเด็ดขาดจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ออกล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบางซ่อน + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รมว.ยุติธรรม มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน นำนักโทษเด็ดขาดจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ออกล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบางซ่อน +รมว.ยุติธรรม มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน นำนักโทษเด็ดขาดจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ออกล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบางซ่อน +ในวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ชุมชนสุขสันต์ 1 เขตบางซื่อ เพื่อมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ด้วยการนำนักโทษเด็ดขาด จากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี จำนวน 40 คน ออกล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบางซ่อน เพื่อช่วยลดปัญหาอุทกภัยในหน้าฝนและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน +โดยมี พันตำรวจโทเชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมลงพื้นที่ +โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พบปะพูดคุยกับ นายขวัญมงคล ธรรมเนียม ประธานกรรมการชุมชนสุขสันต์ 1 เขตบางซื่อ และนายเอกชัย พากเพียร รองประธานกรรมการชุมชนสุขสันต์ 1 เขตบางซื่อ พร้อมทั้งพูดคุยกับชาวบ้านที่มาชื่นชมและให้กำลังใจในภารกิจหลังทำความสะอาดท่อระบายน้ำของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี +ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์มีนโยบายนำนักโทษเด็ดขาดออกล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 โดยความร่วมมือกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักโทษเด็ดขาดที่มีความประพฤติดี เป็นผู้ต้องขังชั้นดีและใกล้พ้นโทษ ได้รู้จักการทำความดีและการทำประโยชน์เพื่อตอบแทนสังคม โดยปัจจุบัน มีเรือนจำจำนวน 17 แห่ง เข้าร่วมภารกิจการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและในเขตพื้นที่ปริมณฑล +สำหรับเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เป็นหนึ่งในเรือนจำที่เข้าร่วมภารกิจล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ และเป็นเรือนจำต้นแบบการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำอันดับ 1 ของประเทศ ในมิติด้านประสิทธิภาพ ทางเรือนจำฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาการทำงานของผู้ต้องขังในการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ควบคู่ไปกับหลักความปลอดภัย และหลักอาชีวอนามัย ตลอดจนการดำเนินตามนโยบาย 7 ห้าม 3 ให้ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 ให้ คือ “ให้โอกาส ให้กำลังใจ และให้การยอมรับ” + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92387 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _5_d2d3657c-2955-40d2-b0ab-b1832a872fa1.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _5_d2d3657c-2955-40d2-b0ab-b1832a872fa1.txt" new file mode 100644 index 000000000..7be4ee0f2 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _5_d2d3657c-2955-40d2-b0ab-b1832a872fa1.txt" @@ -0,0 +1,17 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กระทรวงยุติธรรม​ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้​ เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้แก่ประชาชน + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +กระทรวงยุติธรรม​ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้​ เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้แก่ประชาชน +กระทรวงยุติธรรม​ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้​ เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้แก่ประชาชน +ในวันพุธที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้ ครั้งที่ 1/2568​ โดยมี​ นายไตรยฤทธิ์​ เตมหิวงศ์​ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม​ คณะกรรมการและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ อาทิ​ สำนักงานศาลยุติธรรม​ สำนักงานอัยการสูงสุด​ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​  สภาท​นา​ยความในพระบรมชูปถัมภ์​ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา​ ธนาคารแห่งประเทศไทย​ ธนคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เข้าร่วมฯ​ ณ ห้องประชุม 10-01 ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม +โดยที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 10/2568 ลงวันที่ 10 มกราคม 2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการและจัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้​ รวมถึงการแต่งตั้งผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมอบหมาย +และข้อเท็จจริง​ สภาพปัญหาหนี้สินในสังคมไทย มาตรการที่ดำเนินการอยู่ หนี้ชั้นบังคับคดี หนี้​ กยศ.​ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล หนี้เช่าซื้อ หนี้นอกระบบ และหนี้เกษตรกร นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน​ รวมทั้งแนวทางที่จะปรับปรุง​และบูรณาการการทำงานร่วมกัน​ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลประชาชนอย่างแท้จริง +ในการนี้​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ กล่าวว่า​ หนี้ครัวเรือน​คือทุกข์ของประชาชน​ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างเร่งด่วน​ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนยุติธรรมแก้ปัญหาหนี้​ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ยุติธรรม​ จึงอยากให้มีการดำเนินงานที่มีความเป็นรูปธรรมและมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของประชาชน​ ทั้งนี้​ ความเหลื่อมล้ำสูงสุดของประเทศไทย​ คือ​ ความเหลื่อมล้ำทางคมนาคม​ ประชาชนบางกลุ่มมีความยากลำบากในการเดินทางมาติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ดังนั้น​ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดโดยการนำความยุติธรรมไปหาประชาชน​ ซึ่งควรมีช่องทางออนไลน์​และมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้​ มีระบบติดตาม​ รวมถึงการนำเทคโนโลยี​ AI​ เข้ามาช่วยในการดำเนินงานช่วยเหลือลูกหนี้​ ทั้งนี้​ เพื่อ​ให้ประชาชนมีความรู้สึกว่ามีที่พึ่งทางด้านกฎหมายอย่างแท้จริง +/////// +อุมาภรณ์/ข่าว +@ข้าวปั้น ขอบตาดำ เพื่อจัดทำ​ pop​ up​ ค่ะ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92409 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _6_47153bdb-0a54-454a-9961-8803b40ee2e4.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _6_47153bdb-0a54-454a-9961-8803b40ee2e4.txt" new file mode 100644 index 000000000..221dd1886 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\201\340\270\216\340\270\253\340\270\241\340\270\262\340\270\242\340\270\257 _6_47153bdb-0a54-454a-9961-8803b40ee2e4.txt" @@ -0,0 +1,26 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 +รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 +ในวันพุธที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณฯ โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี +นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงจุดประสงค์สำคัญในการจัดทำงบประมาณปี 2569 โดยต้องทำให้ทุกคนมองเห็นภาพเดียวกัน ว่าจะร่วมกันเปลี่ยนแปลงความท้าทายของการพัฒนาประเทศให้เป็นความหวัง และเป็นโอกาสให้ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ตรงจุดได้ โดยวางแผนการใช้งบฯปี 2569 ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ผ่านการยกระดับมาตรฐานการทำงานของภาครัฐให้ตอบสนองกับโลกในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการด้วย “การเติบโตทางประสิทธิผล” หรือ “Efficiency GROWTH” ต้องใช้งบฯให้แม่นยำ ทำงานให้ตรงเป้าหมายดังนี้ (1) ไม่ลดสัดส่วนงบลงทุน และอุดหนุนเพื่อสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง (2) ไม่เพิ่มงบดำเนินงาน เน้นเพิ่มประสิทธิผล แต่ไม่เพิ่มงบประมาณ (3) ไม่เพิ่มอัตรากำลังเน้นพัฒนากำลังคนของเราที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ และดูแลด้านสวัสดิการให้ทั่วถึง และเท่าเทียม +นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความท้าทายที่ประเทศไทยเผชิญทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงเศรษฐกิจของไทยที่เติบโตต่ำกว่าศักยภาพมานานหลายปี ส่งผลให้รายได้ของคนไทยโตไม่ทันรายจ่าย นำไปสู่ปัญหาหนี้ที่รุนแรงและเรื้อรัง เช่นเดียวกับปัญหาของคนทำมาค้าขายที่ต้องรับมือกับทั้งปัญหาด้านสภาพคล่องและการจ้างงาน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านคุณภาพชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม  ที่ยังรอการแก้ไขอีกหลายเรื่อง +อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี กล่าวเชื่อมั่นในประเทศไทยและคนไทยที่มีศักยภาพ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะสามารถสร้าง “การเติบโตด้านประสิทธิผล” หรือ “Efficiency GROWTH” เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาเร่งด่วนให้คนไทย ทำให้พี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี +นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณฯ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ตามของนโยบายรัฐบาล ทั้งการปัญหาแก้หนี้ครัวเรือนทั้งระบบ และ Digital Wallet ด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม ด้านการต่างประเทศ ด้านเกษตร ด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงนโยบายด้านสังคม โดยรัฐบาลจะสร้างโอกาสที่เสมอภาคทั้งในทางเศรษฐกิจและสังคม ในส่วนของงบประมาณจะต้องสะท้อนความตั้งใจที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ด้านการศึกษารัฐบาลจะนำโครงการ ODOS กลับมา ทั้งในรูปแบบโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน  Summer Camp รวมทั้งโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ พร้อมกับพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ทั้งในระบบและนอกระบบ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อสร้างรายได้ (Learn to Earn)  และได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องไม่มีเด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนจบการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อเตรียมคนในประเทศให้พร้อมรองรับการพัฒนาประเทศและโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาจากบริษัทหรือผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนและประกอบกิจการในประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องเร่งสร้างโอกาสให้มากขึ้นโดยเร็ว +สำหรับด้าน Soft Power รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพ Upskill และ Reskill คนไทย เพื่อให้คนไทยเป็นพลเมืองที่คุณภาพของโลกในศตวรรษที่ 21 ด้วยนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (OFOS) ด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย รัฐบาลต้องการเห็นการใช้ทรัพยากรภาครัฐอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะในเรื่องที่ดินที่จะสนับสนุนคนไทยจะต้องเข้าถึงสิทธิที่ดินเพิ่มขึ้น แก้ปัญหาที่ดินทับช้อน รวมถึงการดำเนิน โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” (Public Housing) ที่จะทำให้การมีบ้านของตัวเอง +ในด้านปัญหาด้านยาเสพติดและอาชญากรรม/อาชญากรรมออนไลน์ รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทย ด้วยวิธีการที่เด็ดขาด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม รัฐบาลต้องการให้พี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้านสามารถเข้าถึงน้ำสะอาด มีน้ำเพียงพอที่จะทำการเกษตร รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งลดลง ซึ่งรัฐบาลได้มีการวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว +ส่วนด้านความมั่นคง/กองทัพ ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคงทางด้านทหาร กองทัพจะต้องมีประสิทธิภาพ และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิผล โดยเน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการดูแลความมั่นคงของประเทศ ปรับขนาดองค์กรให้มีความคล่องตัวและสอดคล้องกับภารกิจ พร้อมทั้งเร่งเปลี่ยนผ่านรูปแบบการเกณฑ์ทหารไปสู่แบบสมัครใจ +ด้านการบริหารรัฐกิจ (1) กฎระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่ถูกทบทวนมายาวนาน 20-30 ปี และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้แต่ละกระทรวงได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบและแก้กฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งยกเลิกกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อเอื้อต่อการประกอบธุรกิจในประเทศ  (Ease of Doing Business) (2) E-Government ประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ นิติธรรม เพื่อรับมือกับข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนจะต้องมุ่งสู่การเป็น Digital Government เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานด้วยนโยบาย “Go Cloud First” รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมคิดเห็นและมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น +นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาลทั้งนโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลาง และระยะยาว ถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ครอบคลุมทุกประเด็น ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 3,780,600 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2568 ได้ไม่มากนัก แต่มีรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายจำนวนมาก +ดังนั้น ในการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นเท่าที่จำเป็นจะต้องไม่เป็นการเพิ่มรายจ่ายประจำ ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณขอให้ใช้โอกาสนี้ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาครัฐ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณ  และการใช้จ่ายงบประมาณ  ให้เป็นไปอย่างประหยัด และคุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์กับประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 ธันวาคม 2567 เรื่องแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569 - 2672) อย่างเคร่งครัด  ดังนี้ +(1) ให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้เทียบเคียงการดำเนินการ กับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับประเทศไทย เพื่อให้ภาครัฐมีงบประมาณที่เพียงพอ สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่าง ๆ +(2) ให้หน่วยรับงบประมาณ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อให้มีความคุ้มค่า ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ทั้งนี้ ในการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณ ให้เสนอขอรับงบประมาณเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้ความสำคัญกับโครงการลงทุนของภาครัฐด้วย +(3) ให้หน่วยรับงบประมาณ ที่มีเงินนอกงบประมาณ เงินรายได้ หรือเงินสะสม นำเงินดังกล่าวมาใช้ดำเนินโครงการ ภารกิจในความรับผิดชอบเป็นลำดับแรก รวมทั้งพิจารณาแหล่งเงินอื่น เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการตามความเหมาะสมด้วย เช่น เงินกู้ PPP เพื่อลดภาระงบประมาณในภาพรวมของประเทศ +(4) ให้กระทรวง และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจ  พิจารณาลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชน และนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย +“สิ่งสำคัญที่พูดคุยกันในวันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการจัดทำงบประมาณของปี พ.ศ. 2569 แต่ยังรวมถึงเป้าหมาย และวิธีการที่ราชการจะช่วยกันเปลี่ยนงบประมาณของประเทศให้เป็นความหวังและโอกาสของประเทศชาติ และประชาชน ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าข้าราชการเกือบ 2 ล้านคนจะดูแลคนไทยทั้ง 66 ล้านคนด้วยความใส่ใจ โดยการใช้จ่ายเงินงบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ซึ่งหวังว่าการจัดทำงบประมาณ และบูรณาการ งบประมาณในมิติพื้นที่จะทำให้แผนงานโครงการของงบประมาณปี 2569 เป็นงบประมาณที่ช่วยเติมความหวัง สร้างโอกาส และวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว” นายกรัฐมนตรีให้นโยบาย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92410 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_c148f885-291a-4957-9fb3-7d29617ec1ca.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_c148f885-291a-4957-9fb3-7d29617ec1ca.txt" new file mode 100644 index 000000000..9319c6d70 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _1_c148f885-291a-4957-9fb3-7d29617ec1ca.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-"อนุทิน" สั่งกรมกรปกครองแก้ไข พ.ร.บ.พนัน เพิ่มโทษหนักผู้ลักลอบกระทำผิด ป้องกันเยาวชนถูกหลอกลวงสู่วงจรพนัน + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +"อนุทิน" สั่งกรมกรปกครองแก้ไข พ.ร.บ.พนัน เพิ่มโทษหนักผู้ลักลอบกระทำผิด ป้องกันเยาวชนถูกหลอกลวงสู่วงจรพนัน +"อนุทิน" สั่งกรมกรปกครองแก้ไข พ.ร.บ.พนัน เพิ่มโทษหนักผู้ลักลอบกระทำผิด ป้องกันเยาวชนถูกหลอกลวงสู่วงจรพนัน +น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้กรมการปกครองยกร่างแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 เพิ่มโทษผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ผู้เล่นการพนัน ในสถานที่ที่จัดให้มีการเล่นพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีบทลงโทษรุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการปราบ ปรามการลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมาย ทั้งการพนันทั่วไป และการพนันออนไลน์ +ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันนี้ มีเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ถูกหลอกลวง ใช้เทคนิคต่าง ๆ สร้างแรงจูงใจดึงเข้าสู่วงจรการพนันผิดกฎหมายจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาหนี้สินนอกระบบ ส่งผลถึงปัญหาครอบครัว และขยายตัวเป็นปัญหาสังคม ลุกลามไปทั่วทุกหมู่บ้าน +"แนวทางที่ท่าน มท.1 มอบหมายอธิบดีกรมการปกครองไปแก้ไขกฎหมาย จะเป็นการเพิ่มโทษผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน และผู้ลักลอบเล่นการพนัน โดยจะเปลี่ยนแปลงโทษผู้เล่น จาก ทั้งจำ และ ปรับ หรือ ปรับ ไม่มีจำ เป็นโทษจำ อย่างเดียว ไม่มีปรับ และแก้บทลงโทษโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นโทษจำ และ ยึดทรัพย์ทุกกรณี ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกัน และการควบคุมไม่ให้มีการลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมาย จำเป็นต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น และ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด" น.ส.ไตรศุลี กล่าว + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92391 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_40b0acda-5332-4094-88c8-0c2ad25be868.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_40b0acda-5332-4094-88c8-0c2ad25be868.txt" new file mode 100644 index 000000000..f09e7e406 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _2_40b0acda-5332-4094-88c8-0c2ad25be868.txt" @@ -0,0 +1,11 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กิจกรรมการแสดงเฉลิมพระเกียรติ ๔ ภาค เนื่องในพระราชพิธีสมมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า รัชกาลที่ ๑๐ มีพระชนมายุเสมอด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +กิจกรรมการแสดงเฉลิมพระเกียรติ ๔ ภาค เนื่องในพระราชพิธีสมมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า รัชกาลที่ ๑๐ มีพระชนมายุเสมอด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ +วันที่ ๑๓ – ๒๐ มกราคม ๒๕๖๗ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร +๑๕ มกราคม ๒๕๖๘ ๑๓.๐๐ น. – ๑๗.๐๐ น. (บ่าย) ณ ขับซอ คีตศิลป์แผนดินล้านนา คณะแม่ครูจำปา แสนพรหม จังหวัดเชียงราย +๑๘.๐๐ น. – ๒๑.๐๐ น. (ค่ำ) ณ ลิเก คณะอดิเทพ ฟ้ารุ่ง +#พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช#สมเด็จพระปฐมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี #กระทรวงกลาโหม #สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม #กองทัพไทย #กองบัญชาการกองทัพไทย #กองทัพบก #กองทัพเรือ #กองทัพอากาศ #ทหารบก #ทหารเรือ #ทหารอากาศ #เหล่าทัพ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92393 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_62855320-a64b-473f-b922-225fbab57548.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_62855320-a64b-473f-b922-225fbab57548.txt" new file mode 100644 index 000000000..a807e8e67 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _3_62855320-a64b-473f-b922-225fbab57548.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองปลัด มท. ร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุด"รามอยุธเยศเศวตฉัตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่า รัชกาลที่ 1 + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รองปลัด มท. ร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุด"รามอยุธเยศเศวตฉัตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่า รัชกาลที่ 1 +รองปลัด มท. ร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุด"รามอยุธเยศเศวตฉัตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี +รองปลัดมหาดไทย ร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุด "รามอยุธเยศเศวตฉัตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 +เมื่อวันอังคารที่ 14 ม.ค. 2568 เวลา 18.00 น. ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพฯ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับชมการแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ชุด "รามอยุธเยศเศวตฉัตร" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน เข้าร่วมรับชม +ทั้งนี้ ก่อนทำการแสดง เป็นการรำเฉลิมพระเกียรติพระราชพิธีสมมงคล ซึ่งเป็นการสมมุติให้ผู้แสดงเป็นเทวดา นางฟ้าที่ต่างปลื้มปิติยินดี ร่วมกันจัดระบำถวายราชสดุดีและถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติยศแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศและสถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบจิรัฏฐิติกาล +ในส่วนของการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ "ชุดรามอยุธเยศเศวตฉัตร" เป็นการกล่าวถึงครั้นเมื่อพระรามยกกองทัพข้ามสมุทรไปทำสงครามสังหารทศกัณฐ์จนถึงแก่ความตาย แล้วรับนางสีดาคืนกลับมา พระพรต พระสัตรุดและสามพระมารดา จึงเสด็จพร้อมด้วยขบวนเกียรติยศ เดินทางมาอัญเชิญพระรามกลับสู่กรุงศรีอยุธยาเพื่อเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา บรรดาเทวดานางฟ้าจึงต่างมาร่วมกันร่ายรำถวายพระพรชัยมงคล แซ่ซ้องสรรเสริญพระรามและพระราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ให้ทรงพระเจริญ ทำการแสดงโดย นาฏศิลปิน สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92394 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _4_8910ad8f-6c01-4bd9-a583-4e267d9af7f2.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _4_8910ad8f-6c01-4bd9-a583-4e267d9af7f2.txt" new file mode 100644 index 000000000..5ff7fbd45 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\204\340\270\247\340\270\262\340\270\241\340\270\241\340\270\261\340\271\210\340\270\231\340\270\204\340\270\207 _4_8910ad8f-6c01-4bd9-a583-4e267d9af7f2.txt" @@ -0,0 +1,14 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-อัษฎางค์ 1 "อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์" นำทีมผู้บริหาร มท. - ผู้ว่าฯ รับมอบนโยบาย สร.1 มุ่งทำแผนงบประมาณปี 69 แบบ "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" ตามแนวทางของ "มท.1" รับมือพลวัตโลก + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +อัษฎางค์ 1 "อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์" นำทีมผู้บริหาร มท. - ผู้ว่าฯ รับมอบนโยบาย สร.1 มุ่งทำแผนงบประมาณปี 69 แบบ "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" ตามแนวทางของ "มท.1" รับมือพลวัตโลก +อัษฎางค์ 1 "อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์" นำทีมผู้บริหาร มท. - ผู้ว่าฯ รับมอบนโยบาย สร.1 มุ่งทำแผนงบประมาณปี 69 แบบ "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" ตามแนวทางของ "มท.1" อนุทิน ชาญวีรกูล รับมือพลวัตของโลก สอดรับนโยบายรัฐบาล ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค +วันนี้ (15 ม.ค. 68) เวลา 10.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (อัษฎางค์ 1) เป็นผู้แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย (มท.1) นำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับมอบนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (สร.1) ในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ร่วมในการประชุมสัมมนาด้วย +ในการประชุมครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เน้นย้ำถึงการจัดทำงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (1 ต.ค. 2568 - 30 ก.ย. 2569) ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด โดยมีเป้าหมายว่า “การเติบโตทางประสิทธิผล” ด้วยการใช้งบอย่างแม่นยำและตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น 3 แนวคิด คือ 1) ไม่ลดสัดส่วนงบลงทุนและอุดหนุน เพื่อสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง 2) ไม่เพิ่มงบดำเนินงานเน้นเพิ่มประสิทธิผลแต่ไม่เพิ่มงบประมาณ และ 3) ไม่เพิ่มอัตรากำลังเน้นพัฒนากำลังคนให้มีประสิทธิภาพและดูแลด้านสวัสดิการให้ทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกจากสภาวะโลกร้อน โดยมุ่งสร้างโอกาส กระจายความเท่าเทียม กระจายสวัสดิการให้เข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ทำให้ประชาชนกลับมากินดีอยู่ดี สามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้อย่างสง่างาม โดยรัฐบาลมีการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2569 ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 3,780,600 ล้านบาท พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด เกิดประโยชน์ทุกบาท ทุกสตางค์กับประชาชนจริง ๆ และปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน +"กระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงาน เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ด้วยการจัดทำแผน/แผนงาน/โครงการที่สอดรับกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งมิติด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย (มท.1) และรัฐบาล ด้วยความทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ ทำให้ประชาชนมีความกินดี อยู่ดี มีโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อยู่ร่วมกับครอบครัว ชุมชน และสังคม ได้อย่างมีความสุข ผ่านกลไกของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ตามปณิธานมหาดไทย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้าอย่างถ้วนทั่ว" +#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOIOneteam + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92401 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\247\340\270\261\340\270\222\340\270\231\340\270\230\340\270\243\340\270\243\340\270\241\340\270\227\340\271\210\340\270\255\340\270\207\340\271\200\340\270\227\340\270\265\340\271\210\340\270\242\340\270\247\340\270\257 _1_35abaef1-d08d-4ee2-bb54-cda6b3741c30.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\247\340\270\261\340\270\222\340\270\231\340\270\230\340\270\243\340\270\243\340\270\241\340\270\227\340\271\210\340\270\255\340\270\207\340\271\200\340\270\227\340\270\265\340\271\210\340\270\242\340\270\247\340\270\257 _1_35abaef1-d08d-4ee2-bb54-cda6b3741c30.txt" new file mode 100644 index 000000000..d6ec19889 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\247\340\270\261\340\270\222\340\270\231\340\270\230\340\270\243\340\270\243\340\270\241\340\270\227\340\271\210\340\270\255\340\270\207\340\271\200\340\270\227\340\270\265\340\271\210\340\270\242\340\270\247\340\270\257 _1_35abaef1-d08d-4ee2-bb54-cda6b3741c30.txt" @@ -0,0 +1,17 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมหารือสำนักงานความมั่นคงฮ่องกง เสริมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยว + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมหารือสำนักงานความมั่นคงฮ่องกง เสริมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยว +กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมหารือสำนักงานความมั่นคงฮ่องกง เสริมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยว +วันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และโฆษกกระทรวงฯ พร้อมด้วยนายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้การต้อนรับนายชุก เฮา ยิป ปลัดสำนักงานความมั่นคงแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และคณะ ณ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรปราการ +การหารือในครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางความร่วมมือด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ภายหลังจากเหตุการณ์ที่นักศึกษาชาวฮ่องกงถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยนายชุก เฮา ยิป ได้แสดงความขอบคุณและให้ความเชื่อมั่นในมาตรการที่ประเทศไทยดำเนินการเพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว +ในโอกาสนี้ ตำรวจท่องเที่ยวได้เสนอ 4 มาตรการสำคัญเพื่อยกระดับความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ดังนี้: +1. การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว (TSOC) เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ +2. โครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง (STC) โดยเชื่อมต่อกล้องระบบ AI เพื่อวิเคราะห์และจับกุมบุคคลตามหมายจับ +3. การพัฒนาแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police Application (TTPB-APP) ที่เชื่อมต่อกับสายด่วน 1155 พร้อมฟังก์ชัน SOS และ GPS เพื่อความช่วยเหลือที่รวดเร็ว +4. การยกระดับศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 เป็น One Stop Service พร้อมบริการล่าม 8 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง +ภายหลังการหารือ คณะผู้แทนจากฮ่องกงได้เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 และการสาธิตการใช้งานแอปพลิเคชัน TTPB-APP ซึ่งเป็นการแสดงถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเสริมสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว +นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92374 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_38d0835b-ef10-4b29-84b2-6efb91ba1967.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_38d0835b-ef10-4b29-84b2-6efb91ba1967.txt" new file mode 100644 index 000000000..4ac672c5d --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _1_38d0835b-ef10-4b29-84b2-6efb91ba1967.txt" @@ -0,0 +1,11 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดดีอี เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านดิจิทัล (ADGSOM) ครั้งที่ 5 + + +วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 +ปลัดดีอี เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านดิจิทัล (ADGSOM) ครั้งที่ 5 +ปลัดดีอี เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านดิจิทัล (ADGSOM) ครั้งที่ 5 +เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 (The 5th ASEAN Digital Senior Officials Meeting: ADGSOM) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ และโรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ +. +สำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ADGSOM และคู่เจรจา ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย และองค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Telecommunity - APT) โดยมีสาระสำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรม/โครงการความร่วมมือในแผนการดำเนินการด้านดิจิทัลระหว่างอาเซียนและคู่เจรจา ในปี 2568 โดยที่ประชุมมุ่งหวังที่จะกระชับความร่วมมือกับคู่เจรจา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เป็นต้น + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92368 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _2_0d0ca110-b797-46ad-b8aa-0ef2ec9ab86e.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _2_0d0ca110-b797-46ad-b8aa-0ef2ec9ab86e.txt" new file mode 100644 index 000000000..5c9d59dc4 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _2_0d0ca110-b797-46ad-b8aa-0ef2ec9ab86e.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ปลัดดีอี ร่วมหารือทวิภาคี ไทย-สหรัฐฯ ในการประชุม ADGSOM ครั้งที่ 5 + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +ปลัดดีอี ร่วมหารือทวิภาคี ไทย-สหรัฐฯ ในการประชุม ADGSOM ครั้งที่ 5 +ปลัดดีอี ร่วมหารือทวิภาคี ไทย-สหรัฐฯ ในการประชุม ADGSOM ครั้งที่ 5 +ปลัดดีอี ร่วมหารือทวิภาคี ไทย-สหรัฐฯ ในการประชุม ADGSOM ครั้งที่ 5 +วันที่ 15 มกราคม 2568 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้การต้อนรับ นายสตีฟ แลง เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา พร้อมคณะ เข้าพบเพื่อหารือในฐานะคู่เจรจากับอาเซียน ณ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ +สำหรับการประชุมทวิภาคีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในหลายประเด็น เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงความเข้มแข็งในเศรษฐกิจดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ภายใต้หัวข้อหลัก (Theme) ของการประชุม ADGMIN ครั้งที่ 5 คือ “Secure, Innovation, Inclusive: Shaping ASEAN’s Digital Future” อีกทั้งประเด็นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความปลอดภัยทางไซเบอร์ซึ่งไทยได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะด้าน Cloud Computing +ทั้งนี้เทคโนโลยี AI ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก แต่ยังคงต้องใช้อย่างระมัดระวังและเป็นไปตามกฏระเบียบ รวมถึงประเด็นด้านการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ โดยไทยได้มีการหารือร่วมกับ META บนแพลตฟอร์ม Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อป้องกันการฉ้อโกงที่เกิดขึ้น +ขณะเดียวกันในด้านประเด็นความร่วมมืออื่น ๆ นั้น สหรัฐฯ ได้มีการเสนอความร่วมมือด้าน 5G ผ่านดาวเทียม และ Cloud Computing โดยไทยได้รายงานว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีการให้บริการ 5G ผ่านดาวเทียมซึ่งสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ห่างไกลและส่งเสริมความครอบคลุมทางดิจิทัล รวมทั้งประเด็นการเลือกตั้งในการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union : UPU) ซึ่งไทยขอการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ซึ่งจะขึ้นในช่วงเดือนกันยายนนี้ สำหรับความคืบหน้าด้านกรอบความตกลงทางเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ the ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา โดยตั้งเป้าหมายสรุปผล ภายในสิ้นปี 2025 +นอกจากนี้ทางสหรัฐฯ ได้ชื่นชมไทยที่เปิดโอกาสให้คณะผู้แทน US-ASEAN Business Council  (USABC) ซึ่งเป็นคณะผู้แทนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมาไทยได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยถือเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในหลากหลายมิติ +--------------------------- + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92398 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _3_81f3f607-e935-4b24-b5b4-2cd14c9949b4.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _3_81f3f607-e935-4b24-b5b4-2cd14c9949b4.txt" new file mode 100644 index 000000000..6c1b080dc --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\270\252\340\270\261\340\270\207\340\270\204\340\270\241 _3_81f3f607-e935-4b24-b5b4-2cd14c9949b4.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“วราวุธ” หนุน ปั้น “ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ” หวัง แก้วิกฤติประชากร ให้ผู้สูงอายุมีคนดูแล + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +“วราวุธ” หนุน ปั้น “ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ” หวัง แก้วิกฤติประชากร ให้ผู้สูงอายุมีคนดูแล +“วราวุธ” หนุน ปั้น “ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ” หวัง แก้วิกฤติประชากร ให้ผู้สูงอายุมีคนดูแล +วันที่ 15 มกราคม 2568 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Kick Off การอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ” พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน ปีงบประมาณ 2568 และกล่าวทักทายผู้เข้ารับการอบรมฯ จากภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตกในห้องประชุมฯ และผู้เข้ารับการอบรมฯ จากภาคเหนือ ใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน และมีนายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวรายงาน ในงานเดียวกันนี้ ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. บรรยายพิเศษ  “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” +นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติประชากร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรเป็นมิติหนึ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ โดยจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เฉลี่ยปีละประมาณ 500,000 คน ในขณะที่อัตราการเกิดของเด็กลดน้อยลง ซึ่งแนวโน้มที่ผู้สูงอายุจะอยู่ลำพัง ถูกทอดทิ้ง และขาดผู้ดูแลเพิ่มขึ้น นับเป็นประเด็นปัญหาท้าทาย ที่ประเทศไทยจะต้องมีการเตรียมพร้อมในการรองรับและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ทั้งนี้กระทรวง พม. จึงได้กำหนดข้อเสนอเชิงนโยบาย 5 x 5 ฝ่าวิกฤติประชากร ซึ่งข้อเสนอที่ 3 คือการสร้างพลังผู้สูงอายุ ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน โดยจัดทำ “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ในชุมชน” เพื่อสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ในการทำหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ครอบคลุม 5 มิติ ได้แก่ มิติสังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ตามอุดมการณ์ที่ว่า “ปกป้อง คุ้มครอง เพื่อประชาชนแข็งแรง ครอบครัวเข้มแข็ง ชุมชนร่มเย็น ด้วยความรัก เสียสละอดทน” +นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อปี 2567 กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้ขับเคลื่อน “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” ทำให้มีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุที่ผ่านการอบรม จำนวน 35 คน ซึ่งสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ 20,000 กว่าคน ใน 19 พื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี นครปฐม สิงห์บุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สกลนคร อุบลราชธานี สงขลา และปัตตานี ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากกรมกิจการผู้สูงอายุ จำนวน 240 ชั่วโมง แบ่งเป็นภาคทฤษฎี 90 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 60 ชั่วโมง และการฝึกงาน 90 ชั่วโมง สำหรับปี 2568 กระทรวง พม. ตั้งเป้าขยายผลโครงการฯ ใน 156 พื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้มีผู้บริบาลฯ เพิ่มขึ้นอีก จำนวน 307 คน คาดว่าจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้หลาย 100,000 คน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ (สสว.) ทั้ง 6 แห่ง เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดอบรมร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ก่อนการปฏิบัติหน้าที่จริง ในเดือนเมษายน 2568 และในปีหน้าได้ตั้งเป้าไว้ให้มีผู้บริบาลฯเพิ่มเป็น 3,000 คน และเพิ่มต่อเนื่องทุกปี +นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. มุ่งหวังว่าผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการแบ่งเบาภาระของคนรุ่นใหม่ ที่มีความกังวลว่าผู้สูงอายุในครอบครัวจะไม่มีคนดูแล และการมีผู้บริบาลฯ ยังเป็นการสร้างอาชีพใหม่ให้กับชุมชน ซึ่งมีค่าตอบแทนให้กับผู้บริบาลฯ 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะช่วยให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องออกไปทำงานนอกชุมชน อย่างไรก็ตาม กระทรวง พม. ตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณผู้บริบาลฯ  เพื่อให้สามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น สำหรับประชาชนที่สนใจเข้ามาเป็นเครือข่าย สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด +#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุ #ผส #กรมกิจการผู้สูงอายุ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92405 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_bdb0975a-7563-46c5-8d2b-542150652f6c.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_bdb0975a-7563-46c5-8d2b-542150652f6c.txt" new file mode 100644 index 000000000..355f88ea4 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _10_bdb0975a-7563-46c5-8d2b-542150652f6c.txt" @@ -0,0 +1,11 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ธ.ก.ส. เปิดให้โอนเงินไปต่างประเทศ ผ่าน BAAC Mobile ครอบคลุมทั่วโลก + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +ธ.ก.ส. เปิดให้โอนเงินไปต่างประเทศ ผ่าน BAAC Mobile ครอบคลุมทั่วโลก +ธ.ก.ส. ปิดให้บริการโอนเงินต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile เพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศให้บุตรหลาน ครอบครัว ตลอดจนชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile สะดวก รวดเร็ว +ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดให้บริการโอนเงินต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile เพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศให้บุตรหลาน ครอบครัว ตลอดจนชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile สะดวก รวดเร็ว เพียงเข้ารายการโอนเงินและเลือกโอนเงินต่างประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา ครอบคลุมทั่วโลก รองรับ 3 สกุลเงิน ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) และบาทไทย (THB) (สำหรับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) วงเงินทำธุรกรรมไม่เกิน 150,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อวันต่อคน อัตราค่าธรรมเนียมและเวลาการให้บริการเป็นไปตามธนาคารกำหนด เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568   เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92395 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_197c364a-0593-4d97-aeaf-0483c264cd0e.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_197c364a-0593-4d97-aeaf-0483c264cd0e.txt" new file mode 100644 index 000000000..23c7bd2c7 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _11_197c364a-0593-4d97-aeaf-0483c264cd0e.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กบข. รับรางวัล Prime Minister Awards ผลงานโดดเด่นการป้องกันภัยไซเบอร์ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +กบข. รับรางวัล Prime Minister Awards ผลงานโดดเด่นการป้องกันภัยไซเบอร์ +กบข. รับรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024 มีความเป็นเลิศด้านไซเบอร์ประเภท Best Performance Award องค์กรที่มีผลงานโดดเด่นป้องกันและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ระดับดีเลิศ ประเภทหน่วยงานรัฐ +กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2024 มีความเป็นเลิศด้านไซเบอร์ประเภท Best Performance Award องค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในการป้องกันและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ระดับดีเลิศ ประเภทหน่วยงานรัฐ (ระดับกรม/กระทรวง) จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดยมี นายรณชัย วินทวามร ผู้ช่วยเลขาธิการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นตัวแทน กบข. เข้ารับรางวัลจาก ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี +โดย กบข. ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์มาโดยตลอด และได้ยกระดับแผนการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพิ่มมาตรการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก กำหนดแนวปฏิบัติการเข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลและป้องกันอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ ตามแนวทางเป้าหมายของรัฐบาล ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศไทย และเสริมสร้างบทบาทของประเทศในฐานะศูนย์กลางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งภูมิภาคอาเซียน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92396 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_c3b94b7e-dd16-40ca-b2c6-ff767777699a.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_c3b94b7e-dd16-40ca-b2c6-ff767777699a.txt" new file mode 100644 index 000000000..b2987d867 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _12_c3b94b7e-dd16-40ca-b2c6-ff767777699a.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ทปษ.บุญสิงห์ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ณ สหกรณ์การ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +​ทปษ.บุญสิงห์ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ณ สหกรณ์การ +​ทปษ.บุญสิงห์ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ณ สหกรณ์การเกษตรท่าชนะ จำกัด +นายบุญสิงห์ วรินทรักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมประชุมรับฟังผลการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรท่าชนะ จำกัด รับฟังปัญหาอุปสรรคในพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำถึงแนวทางการปฏิบัติงาน รวมทั้งเยี่ยมชมการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การตลาดที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ให้การสนับสนุนแก่สหกรณ์ โดยมี นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ สปก. นายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน นายประเสริฐศักดิ์ ณ นคร สหกรณ์จังหวัดสุราษฏร์ธานี ดาบตำรวจอนันต์ แบนเพชร ประธานกรรมการ คณะกรรมการ ฝ่ายจัดการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกสหกรณ์ ร่วมเป็นเกียรติ ณ สหกรณ์การเกษตรท่าชนะ จำกัด อำเภอท่าชนะจังหวัดสุราษฏร์ธานี +ทั้งนี้ โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เป็นโครงการที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 19 จังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นความสําคัญในการพัฒนาสมาชิกสหกรณ์ในฐานะเจ้าของและผู้ใช้บริการสหกรณ์ให้มีความรู้ ความเข้าใจมีจิตสํานึกและตระหนักเห็น ความสำคัญ ในการปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ และการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสหกรณ์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์อย่างยั่งยืน โดยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย สมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง รุ่นละ 200 คน จำนวน 5 รุ่น + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92397 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_428fc08c-3627-44ee-bc1f-c480e45766af.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_428fc08c-3627-44ee-bc1f-c480e45766af.txt" new file mode 100644 index 000000000..7f1ec4d66 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _13_428fc08c-3627-44ee-bc1f-c480e45766af.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ออมสินกระตุ้นลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จะหมดหนี้เร็วขึ้น เดดไลน์วันสุดท้าย 28 ก.พ. 68 ทางแอป MyMo หรือที่เว็บออมสิน www.gsb.or.th + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +ออมสินกระตุ้นลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จะหมดหนี้เร็วขึ้น เดดไลน์วันสุดท้าย 28 ก.พ. 68 ทางแอป MyMo หรือที่เว็บออมสิน www.gsb.or.th +โครงการคุณสู้ เราช่วย เป็นมาตรการช่วยลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจ SMEs ที่ปกติมีวินัยดี ลูกหนี้รีบตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือที่แอปพลิเคชัน MyMo ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป +นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เป็นมาตรการช่วยลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจ SMEs ที่ปกติมีวินัยดี แต่อาจเกิดเหตุจำเป็นในการประคับประคองชีวิตและธุรกิจ ทำให้ประสบปัญหาการผ่อนชำระ ซึ่งการเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว จะทำให้ลูกหนี้หมดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้เปลี่ยนสถานะเป็น NPLs ไม่สูญเสียทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน ธนาคารจึงขอเน้นย้ำให้ลูกหนี้สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือสินเชื่อ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 1 ปี รักษาสิทธิประโยชน์ รีบตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือที่แอปพลิเคชัน MyMo ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กำหนดลงทะเบียนวันสุดท้ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนแล้ว ขอให้จัดทำสัญญาการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่แอป MyMo หรือ ติดต่อสาขาธนาคารออมสินที่ขอกู้ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 เป็นต้นไป +สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 99 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92399 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_34c9fc28-7bd7-475a-963d-f5dd648af5ab.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_34c9fc28-7bd7-475a-963d-f5dd648af5ab.txt" new file mode 100644 index 000000000..1c15326ad --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _14_34c9fc28-7bd7-475a-963d-f5dd648af5ab.txt" @@ -0,0 +1,9 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ทปษ.บุญสิงห์เปิดงานประธานในพิธี Kick off  “รวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO” + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +ทปษ.บุญสิงห์เปิดงานประธานในพิธี Kick off  “รวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO” +ทปษ.บุญสิงห์เปิดงานประธานในพิธี Kick off  “รวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO” +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นประธานในพิธี Kick off การขับเคลื่อนปาล์มน้ำมัน“รวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO” ณ โรงแรมแก้วสมุย รีสอร์ท จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างการรับรู้ ความรู้ ความเข้าใจและเตรียมความพร้อมสู่การรับรองมาตรฐาน RSPO และสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนปาล์มน้ำมัน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ให้ก้าวไกลไปในตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน  สำหรับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ซึ่งเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ส่งเสริมการผลิตที่มีมาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มผลผลิตและแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศ ความต้องการสินค้าเกษตรที่ผลิตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค ซึ่งจะเห็นได้จากการมีระเบียบการค้าใหม่ ๆเช่น กฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (European Union Regulation Deforestation : EUDR) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดยั่งการนำเข้าสินค้าที่มีส่วนเกี่ยวโยงกับการทำลายสู่ตลาดของ EU ดังนั้น เป็นโอกาสดีที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้นำมาตรฐาน RSPO มาส่งเสริมให้กับเกษตรกร จนได้รับการรับรองมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น อีกทั้งนี้ ยังสร้างโอกาสในการแข่งขันของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ในตลาดโลกโดยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร RSPO ซึ่งเห็นได้จากการลงนามบันทึกความร่วมมือในวันนี้ ที่บริษัทเอกชนจะรับซื้อผลผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในราคาที่สูงขึ้น สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจรับรองมาตรฐานกับกลุ่มเกษตรกร ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของเกษตรกรดีขึ้นด้วย + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92403 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_e88182e0-26f7-4cee-bdc8-61de16f0146f.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_e88182e0-26f7-4cee-bdc8-61de16f0146f.txt" new file mode 100644 index 000000000..d117c1f8a --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _15_e88182e0-26f7-4cee-bdc8-61de16f0146f.txt" @@ -0,0 +1,15 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กรมศุลกากรจับกุม “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน” + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +กรมศุลกากรจับกุม “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน” +กรมศุลกากรแถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุม “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน” ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี +วันนี้ (วันที่ 15  มกราคม 2568) เวลา 10.30 น. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร นายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าว กรมศุลกากรจับกุม “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน” ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี +นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงได้สั่งการให้กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากรจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเฝ้าระวังและเร่งรัดปราบปรามสินค้าประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในการนำเข้าและนำผ่านราชอาณาจักร +จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด พบว่าอาจมีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง ในวันที่ 3 และ 6 มกราคม 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปรามร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จึงทำการตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัย จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พบว่า มีการแสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็น “เศษโลหะและโลหะเก่าใช้แล้ว”เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการอายัดตู้สินค้าดังกล่าวเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ผลการตรวจสอบ พบว่าสินค้ามีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น จำนวน 9 ตู้ และฮ่องกง จำนวน 1 ตู้ ภายในพบ “เศษชิ้นส่วนอุปกรณ์หรือส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไม่ได้ มีสภาพเป็นเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ ปริมาณกว่า 256,320 กิโลกรัม” ซึ่งสินค้าดังกล่าว ถือเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563 มีผลบังคับใช้วันที่ 15 กันยายน 2563 และถือเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และการนำเข้าสินค้าดังกล่าวต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซล ว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดนกรณีเป็นความผิดตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 243 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535  มาตรา 5 วรรคสอง มาตรา 18 วรรคสอง มาตรา 23 และมาตรา 73  ประกอบประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายพ.ศ. 2556 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.18 ชิ้น ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หรือเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์หรือส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไม่ได้ และอนุสัญญาบาเซล ว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดน +สำหรับสถิติการจับกุมของที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 - 14 มกราคม 2568) ได้แก่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 19 คดี น้ำหนัก 256,643 กิโลกรัม เศษพลาสติก จำนวน 6 คดี น้ำหนัก 322,980 กิโลกรัม รวมทั้งหมด 25 คดี น้ำหนัก 579,623 กิโลกรัม สำหรับในปีงบประมาณ 2567 จับกุมขยะเทศบาล จำนวน 9 คดี น้ำหนัก 1,259,942 กิโลกรัม +โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า นอกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ กรมศุลกากรยังเฝ้าระวังสินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและสุขอนามัยของประชาชนอื่น ๆ ด้วย เช่น เศษพลาสติก ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าเศษพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92406 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_972bd490-890c-4d20-82c1-1dde57c6c855.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_972bd490-890c-4d20-82c1-1dde57c6c855.txt" new file mode 100644 index 000000000..4bec47129 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _1_972bd490-890c-4d20-82c1-1dde57c6c855.txt" @@ -0,0 +1,12 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพิธีสมมงคลฯ ณ วัดราชาธิวาส + + +วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 +14/01/2568 +พิมพ์ +​กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพิธีสมมงคลฯ ณ วัดราชาธิวาส +​กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพิธีสมมงคลฯ ณ วัดราชาธิวาส +วันที่ 13 มกราคม 2568 นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ วัดราชาธิวาส เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร +ทั้งนี้ ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน เป็นวันสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง การบําเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คํานึงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการีในวาระต่าง ๆ เช่น ในวันที่ตรงกับการครองราชย์ มีทั้งโอกาสที่เวียนมาเป็นครั้งแรกมักเรียกว่า “สมมงคล” หมายถึง เสมอกัน หรือ “สมภาคา” และวาระหนึ่งที่สําคัญ คือ วันที่พระชนมพรรษาเวียนไปเสมอเท่ากัน และวันที่พระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ล่วงไปแล้วด้วย ถือเป็นภาพลักษณ์แสดงวัฒนธรรมที่ดีงามของพระมหากษัตริย์ของชาติไทยในการที่ทรงสร้างแบบอย่างความกตัญญูกตเวทิตา แสดงความเคารพรําลึกถึงบรรพชนปู่ย่าตายายที่ประกอบคุณความดีไว้แก่บ้านเมืองให้ราษฎรยึดถือเป็นแบบแผน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92369 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_1c746038-9e29-4fa0-b449-8e2056ca888f.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_1c746038-9e29-4fa0-b449-8e2056ca888f.txt" new file mode 100644 index 000000000..ac5e1e848 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _2_1c746038-9e29-4fa0-b449-8e2056ca888f.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​ปลัดฯ ณัฐพล เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป ถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว + + +วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 +14/01/2568 +พิมพ์ +​ปลัดฯ ณัฐพล เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป ถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว +​ปลัดฯ ณัฐพล เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 173 รูป ถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช +วันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 07.30 น. ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 173 รูป ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะองคมนตรีและคู่สมรส ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รองนายกรัฐมนตรีและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย ณ ท้องสนามหลวง +จากนั้น เวลา 09.00 น. ดร.ณัฐพล รังสิตพล เข้าร่วมพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลฯ ดังกล่าว โดยมี โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง +พระราชพิธีสมมงคล ความหมายของ "สมมงคล" (สะ-มะ-มง-คน) คือ การบำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คำนึงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการีในวาระต่าง ๆ เช่น วันดำรงสิริราชสมบัติเวียนมาพ้องกัน หรือ วันที่พระชนมพรรษาเวียนมาเสมอเท่ากันเป็นครั้งแรก มักเรียกว่า "สมมงคล" หมายถึง "เสมอกัน" โดยวันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นวันมหามงคลพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ 26,469 วัน เท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92370 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_b4ee4df3-5371-405c-8df3-3deaf8036211.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_b4ee4df3-5371-405c-8df3-3deaf8036211.txt" new file mode 100644 index 000000000..ee390b219 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _3_b4ee4df3-5371-405c-8df3-3deaf8036211.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​รองปลัดฯ ศุภกิจ นั่งหัวโต๊ะประชุมจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน สร้างการยอมรับและความมั่นใจให้ประชาชน ตั้งเป้าหมายทำคู่มือฯ กระบวนงานหลักครบ 100% ภายในปี 68 + + +วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 +14/01/2568 +พิมพ์ +​รองปลัดฯ ศุภกิจ นั่งหัวโต๊ะประชุมจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน สร้างการยอมรับและความมั่นใจให้ประชาชน ตั้งเป้าหมายทำคู่มือฯ กระบวนงานหลักครบ 100% ภายในปี 68 +​รองปลัดฯ ศุภกิจ นั่งหัวโต๊ะประชุมจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน สร้างการยอมรับและความมั่นใจให้ประชาชน ตั้งเป้าหมายทำคู่มือฯ กระบวนงานหลักครบ 100% ภายในปี 68 +วันนี้ (14 มกราคม 2568) นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการแนวทางการจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน และพัฒนาปรับปรุงกระบวนงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันนำไปสู่การมีคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่เป็นเครื่องมือในการสร้างการยอมรับและความมั่นใจของประชาชน โดยมีนางสาวสุภัตรา เปี่ยมวัตถาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กล่าวรายงาน และมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อก. 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม +รองปลัดฯ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นเวทีในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทำให้กระบวนการจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดประทรวงอุตสาหกรรมดำเนินไปอย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพ โดยจะยกร่างคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานของหน่วยงาน เพื่อพัฒนาปรับปรุงกระบวนงานให้มีความถูกต้อง เพิ่มความคล่องตัว นำไปสู่การอนุมัติและประกาศใช้คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ครบถ้วน สมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนต่อไป +ปัจจุบัน สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้อนุมัติและประกาศใช้คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานแล้ว จำนวน 68 กระบวนงาน ประกอบด้วย กระบวนงานหลัก 64 กระบวนงาน คิดเป็น 70% ของกระบวนงานหลักทั้งหมด และกระบวนงานสนับสนุน 4 กระบวนงาน ทั้งนี้ มีแผนจะดำเนินการจัดทำคู่มือฯ กระบวนงานหลักอีก 23 กระบวนงาน เพื่อให้ครบ 100% ของกระบวนงานหลักทั้งหมดภายในปีนี้ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92371 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_5003d051-d90f-45ed-b7f0-b0dd45294d95.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_5003d051-d90f-45ed-b7f0-b0dd45294d95.txt" new file mode 100644 index 000000000..321218a48 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _4_5003d051-d90f-45ed-b7f0-b0dd45294d95.txt" @@ -0,0 +1,18 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​รองปลัดฯ ศุภกิจ เปิดหลักสูตรข้าราชการที่ดี รุ่น 24 ชูวิสัยทัศน์ "สู้ เซฟ สร้าง" สู่เป้าหมายอุตสาหกรรมยั่งยืน + + +วันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 +14/01/2568 +พิมพ์ +​รองปลัดฯ ศุภกิจ เปิดหลักสูตรข้าราชการที่ดี รุ่น 24 ชูวิสัยทัศน์ "สู้ เซฟ สร้าง" สู่เป้าหมายอุตสาหกรรมยั่งยืน +​รองปลัดฯ ศุภกิจ เปิดหลักสูตรข้าราชการที่ดี รุ่น 24 ชูวิสัยทัศน์ "สู้ เซฟ สร้าง" สู่เป้าหมายอุตสาหกรรมยั่งยืน +วันที่ 14 มกราคม 2568 นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรข้าราชการที่ดี รุ่นที่ 24 โดยมี นางสาวสุนีย์ โสภณ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน นายทินวัฒน์ แก้วสวี ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเปิด และข้าราชการใหม่จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ารับการฝึกอบรม จำนวนทั้งสิ้น 53 คน  ณ ห้องมิ่งเมือง ชั้น 4 โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ +นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ซึ่งเป็นข้าราชการใหม่ทุกคน พร้อมชี้แนะให้ใช้เวลาในการฝึกอบรมอย่างคุ้มค่า ทั้งทางด้านวิชาการ ความรู้ ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่วิทยากรถ่ายทอด รวมถึงการมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีร่วมกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างเครือข่ายในการบูรณาการการทำงานให้บรรลุเป้าหมายของหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของหน่วยงาน โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (ท่านเอกนัฏ พร้อมพันธ์) ได้ประกาศนโยบาย สู้ เซฟ สร้าง “การปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่” ด้วยหัวและใจ กล่าวคือ +“สู้” กับผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายทำร้ายประชาชน ทำให้เกิดมลพิษทางดิน น้ำ อากาศ +“เซฟ” พี่น้องอุตสาหกรรมไทยที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ +“สร้าง” อุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก +และท่านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (ดร.ณัฐพล รังสิตพล) ได้มอบนโยบายด้านอุตสาหกรรม “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” พร้อมกัน 4 มิติ คือ มิติที่ 1 ส่งเสริมธุรกิจ มิติที่ 2 ดูแลสังคม มิติที่ 3 รักษาสิ่งแวดล้อม และมิติที่ 4 กระจายรายได้สู่ชุมชน เน้นการทำงานด้วย "MIND" มุ่งยกระดับภาคอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ด้วย "หัว" และ "ใจ" +โดยการจัดฝึกอบรมฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และ กฎ ก.พ. ว่าด้วยการทดลองปฏิบัติราชการและการพัฒนาข้าราชการที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ พ.ศ. 2553 ซึ่งกำหนดให้มีการพัฒนาข้าราชการพลเรือนสามัญที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ และเพื่อปลูกฝังปรัชญาการเป็นข้าราชการที่ดี ส่งเสริมด้านคุณธรรมและจริยธรรม เสริมสร้างสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติราชการ และการมี MIND ในการปฏิบัติงาน เพื่อองค์กร รวมทั้งพัฒนาเครือข่าย สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในการปฏิบัติงานระหว่างส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา +หลักสูตรข้าราชการที่ดี รุ่น 24 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 24 มกราคม 2568 ณ โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ  และมีการศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา ณ โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 6 หน่วยงาน ได้แก่ 1) สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 20 คน 2) กรมโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 7 คน 3) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 1 คน 4) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จำนวน 18 คน 5) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จำนวน 4 คน 6) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จำนวน 3 คน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92372 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_ce3e22b0-8a04-489c-b532-1caa9516e74d.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_ce3e22b0-8a04-489c-b532-1caa9516e74d.txt" new file mode 100644 index 000000000..929ba363a --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _5_ce3e22b0-8a04-489c-b532-1caa9516e74d.txt" @@ -0,0 +1,20 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-บีโอไอปรับเกณฑ์ LTR Visa ดึงต่างชาติเข้าไทย ยกระดับสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลก + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +บีโอไอปรับเกณฑ์ LTR Visa ดึงต่างชาติเข้าไทย ยกระดับสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลก +ครม. ไฟเขียวบีโอไอ ปรับเกณฑ์วีซ่าพิเศษ LTR Visa เร่งดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูง และนักลงทุนระดับโลกเข้าไทย พร้อมปลดล็อก อำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานและพำนักอาศัยในระยะยาว ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลก +บีโอไอปรับเกณฑ์ LTR Visa ดึงต่างชาติเข้าไทย +ยกระดับสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลก +ครม. ไฟเขียวบีโอไอ ปรับเกณฑ์วีซ่าพิเศษ LTR Visa เร่งดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูง และนักลงทุนระดับโลกเข้าไทย พร้อมปลดล็อก อำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานและพำนักอาศัยในระยะยาว ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลก หลังชาวต่างชาติกว่า 6,000 ราย นำโดยกลุ่มยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นสนใจยื่นขอ LTR Visa เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง +นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของวีซ่าชนิดพิเศษ Long-Term Resident Visa หรือ LTR Visa ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของประเทศที่จะช่วยดึงดูดบุคลากรต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย สอดคล้องกับแนวโน้มการโยกย้ายฐานการลงทุนทั่วโลก อันเนื่องมาจากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างมากขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานการทำงานและการพำนักระยะยาวของบุคลากรต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของกลุ่มนักลงทุนและบุคลากรคุณภาพสูงจากทั่วโลก การดึงดูดบุคลากรในกลุ่มนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจ เกิดเม็ดเงินในการใช้จ่ายของชาวต่างชาติกระจายไปยังภาคส่วนต่าง ๆ เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และยกระดับไทยสู่ศูนย์กลาง Talent ระดับโลกด้วย +LTR Visa เป็นวีซ่าชนิดพิเศษที่รัฐบาลได้มอบหมายให้บีโอไอเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มเข้าสู่ประเทศไทย ได้แก่ 1) ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly Skilled Professionals) 2) ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานจากประเทศไทยให้กับนายจ้างในต่างประเทศ (Work-from-Thailand Professionals) 3) ผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizen) 4) ผู้เกษียณอายุ (Wealthy Pensioners) รวมทั้งผู้ติดตาม โดยจะสามารถพำนักในประเทศไทยได้ 10 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เดินทางเข้าออกประเทศ อีกทั้งจะได้รับอนุญาตให้ทำงาน โดยลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เหลือร้อยละ 17 และยังได้รับการผ่อนปรนระยะเวลาการรายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจากปกติทุก 90 วัน เป็นปีละ 1 ครั้งด้วย +การปรับปรุงหลักเกณฑ์ของ LTR Visa ครั้งนี้ เป็นผลมาจากการหารือร่วมกับหอการค้าต่างประเทศ และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.) ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ +1) ขยายขอบเขตของอุตสาหกรรมเป้าหมายสำหรับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ครอบคลุมอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้มาช่วยยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทย +2) ยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานจากประเทศไทยให้กับนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับคุณสมบัติอื่น ๆ ที่แสดงถึงความรู้ความสามารถและศักยภาพของชาวต่างชาติทั้งสองประเภทได้ดีอยู่แล้ว เช่น รายได้ขั้นต่ำ วุฒิการศึกษา การทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และความมั่นคงของนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดของมาตรการและสามารถเข้าถึงกลุ่ม Talent จำนวนมากขึ้น +3) ผ่อนคลายข้อกำหนดด้านรายได้ สำหรับบริษัทนายจ้างในต่างประเทศของผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานจากประเทศไทย จากเดิมกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับเป็น 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และให้รวมถึงบริษัทลูกที่มีบริษัทแม่ ซึ่งมีรายได้ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐถือหุ้นทั้งสิ้นด้วย เพื่อให้สามารถเข้าถึงพนักงานทักษะสูงของทั้งบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่และบริษัทที่กำลังเติบโต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ประเทศไทยยังขาดแคลน +4) ยกเลิกข้อกำหนดด้านรายได้ สำหรับกลุ่มผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง จากเดิมกำหนดรายได้ส่วนบุคคล 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี โดยจะมาให้ความสำคัญกับทรัพย์สินที่มั่นคงและการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย (ไม่น้อยกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ) ของชาวต่างชาติกลุ่มนี้ มากกว่าการพิจารณารายได้ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศมากขึ้น +5) ขยายสิทธิสำหรับผู้ติดตาม จากเดิมกำหนดเพียงคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ครอบคลุมถึงพ่อแม่และผู้อยู่ในอุปการะ โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ติดตาม เช่นเดียวกับวีซ่าอีกหลายประเภท เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจของมาตรการ สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์ให้ครอบครัวเข้ามาพำนักในประเทศไทยด้วยกัน และยังช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศของสมาชิกครอบครัวชาวต่างชาติอีกด้วย +ทั้งนี้ ปัจจุบันบีโอไอได้อนุมัติ LTR Visa ให้กับบุคลากรต่างชาติศักยภาพสูงแล้วทั้งสิ้นกว่า 6,000 รายจากทั่วโลก โดยกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด คือ ยุโรป (2,500 คน) รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (1,080 คน) ญี่ปุ่น (610 คน) จีน (340 คน) และอินเดีย (280 คน) ตามลำดับ + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92378 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_5f6a53e4-9463-41ac-afdc-35f7246de63a.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_5f6a53e4-9463-41ac-afdc-35f7246de63a.txt" new file mode 100644 index 000000000..d4c49bbd7 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _6_5f6a53e4-9463-41ac-afdc-35f7246de63a.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​“อธิบดีณัฏฐิญา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุม คกก. พิจารณาคัดเลือก คนดี ศรี กสอ. และข้าราชการพลเรือนดีเด่น ตัวอย่างคนดีเดินหน้านโยบาย "รมว.เอกนัฏ" + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +​“อธิบดีณัฏฐิญา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุม คกก. พิจารณาคัดเลือก คนดี ศรี กสอ. และข้าราชการพลเรือนดีเด่น ตัวอย่างคนดีเดินหน้านโยบาย "รมว.เอกนัฏ" +​“อธิบดีณัฏฐิญา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุม คกก. พิจารณาคัดเลือก คนดี ศรี กสอ. และข้าราชการพลเรือนดีเด่น ตัวอย่างคนดีเดินหน้านโยบาย "รมว.เอกนัฏ" +กรุงเทพฯ 9 มกราคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก คนดี ศรี กสอ. และข้าราชการพลเรือนดีเด่น กสอ. ประจำปี พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1/2568 พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting +การประชุมในครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาแผนการดำเนินการคัดเลือก “คนดี ศรี กสอ.” และข้าราชการพลเรือนดีเด่น กสอ. ประจำปี 2567 รวมไปถึงการพิจารณาหลักเกณฑ์และขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือก คนดี ศรี กสอ. ประจำปี พ.ศ. 2567 และการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น กสอ. ประจำปี 2567 ตัวอย่างคนดีของหน่วยงาน เดินหน้านโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม +โดยกลุ่มเป้าหมายของ คนดี ศรี กสอ. ประกอบไปด้วย ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และลูกจ้างเหมาบริการ สำหรับข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประกอบไปด้วย ข้าราชการ และลูกจ้างประจำ ทั้งนี้ จะมีการแจ้งเวียนหน่วยงาน กอง/ศูนย์ภาค เพื่อเสนอชื่อบุคลากรที่มีคุณสมบัติ และกำหนดการลงคะแนนเลือกผู้ถูกเสนอชื่อในระบบออนไลน์ของดีพร้อม ในวันที่ 20 - 21 มกราคม 2568 + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92379 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_a189f0be-d45a-4a3d-9072-18d6939a656e.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_a189f0be-d45a-4a3d-9072-18d6939a656e.txt" new file mode 100644 index 000000000..142d458b2 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _7_a189f0be-d45a-4a3d-9072-18d6939a656e.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายกรมการขนส่งทางบกตรวจประเมินการดำเนินงานสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายกรมการขนส่งทางบกตรวจประเมินการดำเนินงานสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ +... +นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) มีภารกิจในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศให้มีความพร้อมอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชน ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 122 แห่ง แบ่งเป็นสถานีขนส่ง   ที่ดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 97 แห่ง ตามการถ่ายโอนภารกิจที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉบับที่ 2 นอกจากนี้ ยังมีสถานีที่อยู่ระหว่างการถ่ายโอน 1 แห่ง         และสถานีขนส่งที่ดำเนินการโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด และเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งอีก 24 แห่ง ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายและกำชับให้ ขบ. ดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ การพัฒนาระบบขนส่งพื้นฐานให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงทั่วถึง รวมถึงการสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ด้านการขนส่งให้กับผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งเพื่อสนับสนุนให้สามารถบริหารจัดการได้ตามมาตรฐานที่กำหนด +นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขบ. ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเน้นการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการตามผลการประเมินอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ จะเริ่มต้นจากสถานีขนส่งผู้โดยสารที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ขนส่ง จำกัด เป็นโครงการนำร่อง ก่อนขยายผลไปยังสถานีขนส่งกลุ่มอื่น เพื่อกำหนดแนวทางยกระดับการให้บริการในระยะยาว ซึ่งนโยบายดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารให้พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่ม และยกระดับการบริการให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวต่อไป + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92381 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_f5a2f209-d2af-4d61-bf8a-944ec53bf776.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_f5a2f209-d2af-4d61-bf8a-944ec53bf776.txt" new file mode 100644 index 000000000..480b1e8aa --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _8_f5a2f209-d2af-4d61-bf8a-944ec53bf776.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-​"อธิบดีณัฏฐิญา" นำทีมผู้บริหารดีพร้อม เร่งการดำเนินงานตามนโยบาย "รมว.เอกนัฏ" ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +​"อธิบดีณัฏฐิญา" นำทีมผู้บริหารดีพร้อม เร่งการดำเนินงานตามนโยบาย "รมว.เอกนัฏ" ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส +​"อธิบดีณัฏฐิญา" นำทีมผู้บริหารดีพร้อม เร่งการดำเนินงานตามนโยบาย "รมว.เอกนัฏ" ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส +กรุงเทพฯ 8 มกราคม 2568 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครั้งที่ 94-1/ 2568 โดยมี นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และผ่านระบบออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom Meeting +การประชุมครั้งนี้ ได้มีการรายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณและผลการดําเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในส่วนของผลการเบิกจ่ายและรายการงบลงทุนที่ยังไม่ได้ดำเนินการผูกพันสัญญา (ประเภทครุภัณฑ์และประเภทสิ่งก่อสร้าง) และการกันเงินเหลื่อมปีประจำปีงบประมาณ พ.ศ.  2567 พร้อมการนำเสนอภาพรวมคำของบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ประกอบด้วย แผนงานบุคลากร แผนงานพื้นฐาน แผนงานยุทธศาสตร์ และแผนงานบูรณาการ ภายใต้การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมและวิสาหกิจไทยให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ตลอดจนพัฒนาปัจจัยสนับสนุนที่เอื้อต่อการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมและวิสาหกิจไทย และยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการองค์กร +นอกจากนี้ ยังได้มีการรายงานผลการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนฯ ประจำปีบัญชี 2568 ไตรมาสที่ 1 และรายงานข้อมูลของระบบสารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการติดตามการดำเนินโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ในปี 2568 ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงระบบฯ เพื่อรองรับการดำเนินโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ สาขาอาหาร และสาขาเเฟชั่น ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92382 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_a045ecaa-dc0c-4251-a52b-04f223ddf373.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_a045ecaa-dc0c-4251-a52b-04f223ddf373.txt" new file mode 100644 index 000000000..f757fdcc2 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\224\340\271\211\340\270\262\340\270\231\340\271\200\340\270\250\340\270\243\340\270\251\340\270\220\340\270\201\340\270\264\340\270\210 _9_a045ecaa-dc0c-4251-a52b-04f223ddf373.txt" @@ -0,0 +1,13 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รองปลัดฯ เอกภัทร ร่วมชมโขนรามเกียรติ์ เฉลิมพระเกียรติวันสมมงคลเสมอพระชนมพรรษาพระปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +รองปลัดฯ เอกภัทร ร่วมชมโขนรามเกียรติ์ เฉลิมพระเกียรติวันสมมงคลเสมอพระชนมพรรษาพระปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี +รองปลัดฯ เอกภัทร ร่วมชมโขนรามเกียรติ์ เฉลิมพระเกียรติวันสมมงคลเสมอพระชนมพรรษาพระปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี +วันที่ 14 มกราคม 2568 นายเอกภัทร วังสุวรรณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมชมการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด "รามอยุธเยศเศวตฉัตร" จัดโดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระราชวงศ์จักรี โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กรุงเทพมหานคร +เนื่องในวันที่ 14 มกราคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน เป็นวันสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง การบําเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คํานึงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี ในวาระต่าง ๆ เช่น ในวันที่ตรงกับการครองราชย์ มีทั้งโอกาสที่เวียนมาเป็นครั้งแรกมักเรียกว่า "สมมงคล" หมายถึง เสมอกัน หรือ "สมภาคา" บ้าง ถ้าเวียนมาเป็นครั้งที่สองก็เรียกว่า "ทวิภาคา" บ้าง หรือ "ทวีธาภิเษก" บ้าง จะปรากฏแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพระราชพิธีลักษณะนี้ ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 พระราชกุศลที่บําเพ็ญถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการีของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ +นอกจากโอกาสวันดํารงสิริราชสมบัติเวียนมาพ้องกับวันสําคัญดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระราชประเพณีที่ทรงถือปฏิบัติในอีกหลายวาระ และวาระหนึ่งที่สําคัญ คือ วันที่พระชนมพรรษาเวียนไปเสมอเท่ากัน และ วันที่พระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ล่วงไปแล้วด้วย ถือเป็นภาพลักษณ์ แสดงวัฒนธรรมที่ดีงามของพระมหากษัตริย์ของชาติไทยในการที่ทรงสร้างแบบอย่างความกตัญญูกตเวทิตา แสดงความเคารพรําลึกถึงบรรพชนปู่ย่าตายายที่ประกอบคุณความดีไว้แก่บ้านเมือง ให้ราษฎรยึดถือเป็นแบบแผน + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92383 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _1_ce9e0b17-7796-4385-bf29-52b8319a9a2f.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _1_ce9e0b17-7796-4385-bf29-52b8319a9a2f.txt" new file mode 100644 index 000000000..bc23a77e8 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _1_ce9e0b17-7796-4385-bf29-52b8319a9a2f.txt" @@ -0,0 +1,20 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-จ้างแรงงานชลประทาน เสริมรายได้เกษตรกรทั่วประเทศ + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +จ้างแรงงานชลประทาน เสริมรายได้เกษตรกรทั่วประเทศ +วันอังคาร ที่ 14 ม.ค.68 +ต่อจากนี้ไป ขอเชิญรับฟังไทยคู่ฟ้า +รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมเกษตรกรและแรงงานนอกระบบให้มีรายได้เสริม +โดยเปิดรับสมัครเกษตรกรและผู้ใช้แรงงานทั่วไป รวม 84,000 คน ระยะเวลา 12 เดือน คือ ตุลาคม 67 – +กันยายน 68 เพื่อทำงานซ่อมแซมบำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน +ของโครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ +งานก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน แก้มลิง ปัจจุบันดำเนินการจ้างงานแล้วร้อยละ 12 ของแผน +รวม 9,800 คน จังหวัดที่มีการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สกลนคร กาฬสินธุ์ และเชียงใหม่ +ผู้สนใจสอบถามและสมัครทำงานได้ที่ โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือ ทางสายด่วนกรมชลประทาน +โทร.1460 ในวันและเวลาราชการ +“สื่อสารภารกิจรัฐบาล” กับสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92375 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _2_ea70b976-ea59-4cba-8efb-ce605e92177e.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _2_ea70b976-ea59-4cba-8efb-ce605e92177e.txt" new file mode 100644 index 000000000..3cc3b7257 --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\243\340\270\262\340\270\242\340\270\201\340\270\262\340\270\243\340\270\247\340\270\264\340\270\227\340\270\242\340\270\270\340\271\204\340\270\227\340\270\242\340\270\204\340\270\271\340\271\210\340\270\237\340\271\211\340\270\262 _2_ea70b976-ea59-4cba-8efb-ce605e92177e.txt" @@ -0,0 +1,20 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-นำร่อง “โปรแกรมชุมชนบำบัด” เพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดผู้เสพยา + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +15/01/2568 +พิมพ์ +นำร่อง “โปรแกรมชุมชนบำบัด” เพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดผู้เสพยา +วันพุธ ที่ 15 ม.ค.68 +ต่อจากนี้ไป ขอเชิญรับฟังไทยคู่ฟ้า +รัฐบาลเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดผู้ติดยาเสพติด นำร่องใช้โปรแกรมชุมชนบำบัด โดยนำผู้ต้องขัง 100 +รายที่เหลือเวลาจำคุกไม่เกิน 3 ปี สร้างสังคมจำลองร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำและทีมสหวิชาชีพ +ทำกิจกรรมปรับแนวคิดและพฤติกรรม เรียนรู้สิ่งดีและสิ่งที่ผิดพลาดผ่านกิจวัตรประจำวัน +ฝึกความรับผิดชอบและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ฝึกการคิดอย่างเป็นระบบ วางแผนการดำเนินชีวิต +เรียนรู้สังคมภายนอกที่ไม่ใช้ยาเสพติด การเผชิญหน้าและแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง รวมเป็นระยะเวลา 6 +เดือน ซึ่งผลในเบื้องต้นเป็นที่พอใจของผู้ต้องขัง และได้รับเสียงสะท้อนในทางบวก +คาดว่าจะขยายผลไปในทัณฑสถานบำบัดพิเศษประจำภูมิภาค +ซึ่งเป็นเรือนจำเฉพาะสำหรับผู้ต้องขังคดียาเสพติด ต่อไป +“สื่อสารภารกิจรัฐบาล” กับสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92376 \ No newline at end of file diff --git "a/data/2025/01/15/\340\270\255\340\270\267\340\271\210\340\270\231\340\271\206_1_43cd5185-8369-44be-942c-b21fe1150a34.txt" "b/data/2025/01/15/\340\270\255\340\270\267\340\271\210\340\270\231\340\271\206_1_43cd5185-8369-44be-942c-b21fe1150a34.txt" new file mode 100644 index 000000000..3e990f0cc --- /dev/null +++ "b/data/2025/01/15/\340\270\255\340\270\267\340\271\210\340\270\231\340\271\206_1_43cd5185-8369-44be-942c-b21fe1150a34.txt" @@ -0,0 +1,10 @@ +รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-การตรวจราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี) + + +วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 +การตรวจราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี) +วันที่ 16 มกราคม 2568 +ข่าวภารกิจนายกรัฐมนตรี +นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พฤหัสบดี 16 ม.ค.นี้ เร่งพัฒนาพื้นที่ทุกมิติยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องชายแดนภาคใต้ ทั้ง สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา ต้องเท่าเทียมทุกจังหวัด + +ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92389 \ No newline at end of file diff --git a/last_num.txt b/last_num.txt index dc542b4c4..c4e015630 100644 --- a/last_num.txt +++ b/last_num.txt @@ -1 +1 @@ -92368 \ No newline at end of file +92411 \ No newline at end of file