-
Notifications
You must be signed in to change notification settings - Fork 1
Commit
This commit does not belong to any branch on this repository, and may belong to a fork outside of the repository.
- Loading branch information
1 parent
a7b4b03
commit 85cf1d4
Showing
45 changed files
with
679 additions
and
1 deletion.
There are no files selected for viewing
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2024/11/21/ข่าวคณะโฆษก _1_87c891ae-5aa2-4833-80aa-2879d434f721.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้ | ||
|
||
|
||
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 | ||
21/11/2567 | ||
พิมพ์ | ||
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้ | ||
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย | ||
วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2567 ) เวลา 08.00 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพใช้สื่อออนไลน์ทั้งเว็บไซต์ และเพจเฟซบุ๊กโฆษณาชักชวนคนไทยไปทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย โดยแอบอ้างว่ารัฐบาลออสเตรเลียและกระทรวงแรงงานร่วมมือจัดหาคนไทยไปทำงานในออสเตรเลีย โดยจะได้รับวีซ่าประเภททำงานเป็นระยะเวลา 3-5 ปี ได้รับค่าจ้างเดือนละ 90,000 - 120,000 บาท และนายจ้างจะจ่ายค่าดำเนินการ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า พร้อมจัดหาที่พักให้ตลอดระยะทำงาน | ||
“เมื่อมีผู้สนใจหลงเชื่อจะให้ส่งข้อมูลส่วนตัว ชื่อ สกุล ที่อยู่ พร้อมเอกสารสำคัญ อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน อ้างว่าจะใช้ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและยื่นขอวีซ่าทำงานจากนั้นจะให้โอนเงินเป็นค่ามัดจำหรือเป็นค่าดำเนินการด้านเอกสารเป็นเงินประมาณ 100,000 - 200,000 บาท และเมื่อชำระเงินครบแล้ว จะไม่มีการติดต่อหรือดำเนินการตามที่สัญญาไว้ และผู้เสียหายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามกำหนดเวลา และยังมีกรณีการชักชวนให้คนไทยยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแทนวีซ่าทำงานโดยมีการสัญญาว่าจะช่วยยื่นขอวีซ่าทำงานภายหลังจากการเดินทางไปถึงออสเตรเลีย และเมื่อเดินทางถึงแล้ว ผู้ที่เสียหายจะไม่สามารถติดต่อกับตัวแทนหรือได้รับการช่วยเหลือตามที่สัญญาไว้” นายคารม ระบุ | ||
นายคารม เน้นย้ำว่า รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย เตือนคนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศก่อนตัดสินใจโอนเงินให้สายนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทรายใดขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd ปัจจุบันมิจฉาชีพมีกลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงคนหางานหลายวิธี โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดีสาย นายหน้าเถื่อนแล้ว 452 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 608 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 44,223,300 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไอซ์แลนด์ ตามลำดับ | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/90455 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2024/11/21/ข่าวคณะโฆษก _2_bbfcf403-99cf-4bc4-9d80-037889378c45.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยง EEC ล่าสุด กรมทางหลวง ขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ | ||
|
||
|
||
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 | ||
21/11/2567 | ||
พิมพ์ | ||
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยง EEC ล่าสุด กรมทางหลวง ขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ | ||
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยง EEC ล่าสุด กรมทางหลวง ขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ | ||
ข่าวรองนายกรัฐมนตรี วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2567) เวลา 11.30 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยง EEC ล่าสุด สำนักก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ดำเนินโครงการก่อสร้าง ทางหลวงหมายเลข 3481 สายบ้านบางขนาก - ปราจีนบุรี ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ ปราจีนบุรี ระหว่าง กม. ที่ 47+200 - 53+300 และ 54+450 - 60+200 พื้นที่อำเภอเมือง และบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ระยะทาง 11.8 กิโลเมตร แล้วเสร็จ เพื่อรองรับปริมาณจราจรในอนาคต เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างกรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี | ||
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ทางหลวงหมายเลข 3481 สายบ้านบางขนาก - ปราจีนบุรี ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ ปราจีนบุรี เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี รองรับการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ และการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาค ซึ่งมีปริมาณจราจรที่หนาแน่นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดิมมีขนาด 2 ช่องจราจร (ไป - กลับ)สภาพเส้นทางมีความเสียหายเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและการขนส่งของประชาชนด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทล. จึงได้บูรณะและขยายสายทางให้เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ระหว่าง กม. ที่ 47+200 - 53+300 และ 54+450 - 60+200 ผิวจราจรแบบแอสฟัสท์คอนกรีต ความกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) และแบบกำแพงคอนกรีต (Barrier Median) รวมงานติดตั้งไฟแสงสว่าง ไฟสัญญาณจราจร และติดตั้งป้ายเตือนเพื่อความปลอดภัยตลอดเส้นทาง | ||
“ถนนสายนี้สามารถรองรับปริมาณการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สนับสนุนระบบการขนส่งโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ เชื่อมโยงโครงข่ายกับ EEC สนับสนุนระบบโลจิสติกส์ระหว่างภาคตะวันออกกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว เสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์ กล่าว | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/90458 |
Oops, something went wrong.